สุโขทัย

ออกเดินทางย้อนเวลา ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 3 วัน 2 คืน

สุโขทัย จังหวัดที่เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณขนาดใหญ่และเก่าแก่ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ เหมาะที่จะพาแฟนออกเดินทางย้อนเวลาไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย พร้อมทั้งสัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรมของจังหวัดสุโขทัยในช่วงฤดูหนาวนี้ ตามมาๆ

DAY 1

เราเริ่มต้นการเดินทางกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะการเดินทางไปยังจังหวัดสุโขทัยมีเพียงสายการบินเดียวที่บินตรงนั่นก็คือ สายการบิน Bangkok Airways ซึ่งมีทั้งหมด 3 เที่ยวต่อวัน ไปลงที่สนามบินสุโขทัยซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงแค่ 30 กิโลเมตร

bangkok airways

เคาร์เตอร์เช็คอินของสายการบิน Bangkok Airways จะอยู่ที่แถว F มีเคาร์เตอร์ให้บริการค่อนข้างเยอะ ไม่ต้องรอนาน และสามารถเช็คอินมาก่อนล่วงหน้าได้หลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น เช็คอินผ่านเว็บไซด์ ผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ หรือตู้ Kiosk

bangkok airways

Bangkok Airways สนับสนุนการเดินทางของพวกเราในครั้งนี้ แถมยังใจดีให้เข้าไปใช้บริการ Blue Ribbon Lounge ห้องรับรองชั้นธุรกิจสำหรับผู้โดยสารภายในประเทศได้อีกด้วย

bangkok airways

Blue Ribbon Lounge

หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่รอช้ารีบเดินตรงไปยัง Blue Ribbon Lounge ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 อาคารเทียบเครื่อง A ตรงกันข้ามกับประตูทางออก A3 พร้อมไหม!!! เข้าไปสำรวจกัน

Blue Ribbon Lounge

บรรยากาศภายในตกแต่งได้อย่างเรียบหรู ใช้แสงไฟโทนอุ่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

Blue Ribbon Lounge

พอไปถึงก็มีพนักงานมาต้อนรับพร้อมกับยื่นเมนูอาหารและเครื่องดื่มมาให้เลือกมากมาย โดยมีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง

Blue Ribbon Lounge

นอกจากนั้นยังมีขนมและของทานเล่นอื่นๆตั้งรอเอาไว้ให้สามารถเลือกตักมาทานได้ตามใจชอบ

Blue Ribbon Lounge
Blue Ribbon Lounge
Blue Ribbon Lounge
Blue Ribbon Lounge

สิ่งที่ห้ามพลาดและเป็นของขึ้นชื่อก็คือ “ข้าวต้มมัด”

Blue Ribbon Lounge

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องรับรองได้แก่ อินเตอร์เน็ตไร้สาย เครื่องคอมพิวเตอร์ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร

Blue Ribbon Lounge

เครื่องนวดตัวอัตโนมัติ และทีวีส่วนตัว

Blue Ribbon Lounge

พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ชุดหรือโซฟานุ่มๆ

Blue Ribbon Lounge
Blue Ribbon Lounge
Blue Ribbon Lounge
Blue Ribbon Lounge

ไม่นานอาหารร้อนๆก็มาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ

Blue Ribbon Lounge

ปลากระพงทอดผัดซอสสับปะรด พร้อมข้าวกล้องและข้าวหอมมะลิ น่าทานใช่ไหมล่ะ อร่อยใช้ได้เลย

Blue Ribbon Lounge
Blue Ribbon Lounge

พวกเราเลือกเดินทางด้วยเที่ยวบิน PG – 209 เวลา 13.10 โดยมี Boarding time เวลา 12.35 แนะนำให้เผื่อเวลาสักเล็กน้อย เพราะจะต้องต่อรถบัสมาขึ้นเครื่องที่ลานจอด

bangkok airways

สำหรับเครื่องบินที่ใช้ในเส้นทางกรุงเทพ-สุโขทัยนั้น เป็นเครื่องบินใบพัดรุ่นเอทีอาร์ 72-600 ลำเล็กกระทัดรัด แต่ภายในกว้างมากสามารถยืดขาไปข้างหน้าได้จนสุด ตอนแรกนึกว่าจะเวียนหัวแต่ก็ปกติดีเหมือนนั่งเครื่องบินลำใหญ่ๆทั่วไป

bangkok airways

อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องคือ “หมี่กะทิกุ้ง” เส้นหมี่นุ่มๆราดด้วยกะทิกุ้งหอมๆ รสชาติเข้มข้นและอร่อยมาก พร้อมด้วยของหวานอย่างคัสตาร์ดมันม่วงมะพร้าว

bangkok airways

ล้างปากด้วยชามะนาวร้อนๆ

bangkok airways

แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ

ไฮไลด์ของการนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินสุโขทัย คือ สามารถมองเห็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจกลางทุ่งทะเลหลวง โครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งของจังหวัดสุโขทัยจากมุมสูงแบบนี้ โดยแนะนำให้เลือกที่นั่งด้านซ้าย เมื่อออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ

แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจกลางทุ่งทะเลหลวง

ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงกับอีก 15 นาที ก็มาถึงสนามบินสุโขทัยได้อย่างปลอดภัย กัปตันลงจอดนิ่มมาก รู้สึกดีต่อใจ

bangkok airways

หลังจากลงจากเครื่องจะต้องต่อรถรางคันเล็กๆน่ารักๆเข้าไปที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าซึ่งอยู่ไม่ไกล

bangkok airways
bangkok airways
bangkok airways

จุดรับกระเป๋าไม่มีสายพานลำเลียง มีเพียงจุดวางกระเป๋าที่เพิ่งขนลงมาจากเครื่อง ดูเรียบง่าย สะดวก และรวดเร็วดี

bangkok airways

พอได้รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว จึงเดินไปหาพี่หนึ่ง เจ้าของบริษัทอรุโนทัย เรนท์ อะคาร์ ที่มารอส่งรถที่เราเช่าเอาไว้ด้วยตัวเอง เจ้านี้มีรถให้เลือกหลากหลายรุ่น สามารถรับรถได้ทั้งที่สนามบินสุโขทัยและพิษณุโลก บริการเป็นกันเอง แถมราคาไม่แพง

bangkok airways

หลังจากรับรถแล้ว พวกเราตั้งใจว่าจะเข้าไปเยี่ยมชมสวนสัตว์ของสนามบินที่อยู่ข้างๆกัน แต่ช่วงที่เราไปปิดปรับปรุง เลยได้แค่แอบส่องน้องกวางอยู่ไกลๆจากด้านนอกผ่านรั้วกั้นแทน

bangkok airways

โครงการเกษตรอินทรีย์

ขับออกมาจากสนามบินประมาณ 1 กิโลครึ่งจะพบกับโครงการเกษตรอินทรีย์ของสนามบินสุโขทัยอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ที่เปิดให้ทุกคนที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้และสัมผัสกับวิถีเกษตรอินทรีย์ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ และร้านของฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์จากเกษตรอินทรีย์อย่างข้าวหอมอินทรีย์ ผักสด และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

โครงการเกษตรอินทรีย์

ตลาดกลางนา เป็นโซนใหม่ที่กำลังจะเปิดเป็นตลาดขนาดย่อมให้ได้เลือกซื้อของกินและของฝาก

โครงการเกษตรอินทรีย์
โครงการเกษตรอินทรีย์
โครงการเกษตรอินทรีย์

เราเดินลัดเลาะผ่านตลาดกลางนามาจนถึงโซนที่พักของเหล่าน้องควายที่ได้รับการไถ่ชีวิตมากจากโรงฆ่าสัตว์ แต่จุดนี้อาจจะมีไม่มาก เพราะส่วนใหญ่จะถูกปล่อยให้ออกไปเดินเล่นหาอาหารตามทุ่งนาอย่างอิสระ

โครงการเกษตรอินทรีย์

กลุ่มนี้เป็นควายแคะที่เล่นคุกขี้โคลนจนเนื้อตัวมอมแมม

โครงการเกษตรอินทรีย์
โครงการเกษตรอินทรีย์

ส่วนเจ้าตัวนี้ชื่อว่า คุณแซม ควายเผือกสุดหล่อ ดาราประจำโครงการเกษตรอินทรีย์

โครงการเกษตรอินทรีย์

ปกติจะใจดีให้สามารถขึ้นไปขี่บนหลังได้ แต่วันนี้เรามาถึงช่วงบ่าย เป็นช่วงที่อากาศกำลังร้อน คุณแซมเลยหงุดหงิดนิดหน่อย เจ้าหน้าที่เลยยังไม่อยากให้ขึ้นไปขี่ตอนนี้ แนะนำให้มาช่วงเช้าจะดีที่สุด

โครงการเกษตรอินทรีย์

งั้นเปลี่ยนมาขี่เจ้าตัวนี้แทนล่ะกัน ฝาแฝดคุณแซม

โครงการเกษตรอินทรีย์
โครงการเกษตรอินทรีย์

The Legendha Sukhothai Resort

หลังจากเสร็จจากการเยี่ยมชมโครงการเกษตรอินทรีย์ของสนามบินสุโขทัย พวกเราจึงขับรถไปยังที่พักในเขตเมืองเก่า ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 30 นาที ก็มาถึง The Legendha Sukhothai Resort รีสอร์ทสไตล์บูติคที่เน้นความเป็นหมู่บ้านไทยร่วมสมัย ที่พักของพวกเราในคืนแรก ซึ่งตั้งอยู่ติดริมถนนสายหลักและอยู่ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเพียงแค่ 1.4 กิโลเมตร

แผนที่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

ห้องที่เราเข้าพักเป็นแบบ Deluxe พร้อมอาหารเช้าและเย็น ภายนอกเป็นอาคารเรือนไทยไม้สัก ภายในตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ เพดานสูงให้ความรู้สึกโล่งโปร่งสบาย ห้องสะอาดและไม่มีกลิ่นอับ เพราะเพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

เตียงกว้างและนุ่มมาก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ด้านข้างมีเตียงเล็กๆพร้อมด้วยหมอนสามเหลี่ยมลายขิดสองใบเอาไว้ให้นอนเล่น

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอย่าง ทีวี ตู้เย็น ฟรีไวไฟ ไดร์เป่าผม และหม้อต้มน้ำร้อน ฯลฯ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ภายในห้องน้ำมีการแยกโซนแห้งและโซนเปียกเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราให้ความสำคัญมาก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

มีฝักบัวแบบธรรมดาและแบบสายฝนพร้อมน้ำอุ่น ฟินฝุดๆ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

เราเดินมาด้านหลังของรีสอร์ท เพื่อจะออกไปเที่ยวชมวัดช้างล้อม บริเวณใกล้กับประตูทางออกมีพนักงานของรีสอร์ทมานั่งร้อยดอกมะลิและบรรเลงดนตรีเพื่อสร้างบรรยากาศแบบไทยๆ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

วัดช้างล้อม

วัดช้างล้อมตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของรีสอร์ท โดยอยู่ห่างกันเพียงแค่ถนนสายเล็กๆคั่นกลาง

The Legendha Sukhothai Resort

“วัดช้างล้อม” ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองสุโขทัยทางด้านทิศตะวันออก เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงลังกา รูประฆังกลม ที่ฐานเจดีย์ประดับด้วยปูนปั้นรูปช้างครึ่งตัว ยืนหนุนฐานเจดีย์โดยรอบรวมจำนวน 32 รูป

The Legendha Sukhothai Resort

มีการค้นพบศิลาจารึกหลักที่ 106 ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 20 ว่า

“พ่อไสดำผัวแม่นมเทด เป็นขุนนางผู้จงรักภักดีต่อพระมหาธรรมราชาลิไท มีใจศรัทธาออกบวชตามพระมหาธรรมราชาลิไท และได้อุทิศที่ดินของตนสร้างวิหาร ในปี พ.ศ. 1933 สร้างพระพุทธรูป หอพระไตรปิฎก ปลูกต้นพระศรีมหาโพ ธิ์ อุทิศบุญกุศล ถวายแด่พระมหาธรรมราชาลิไทซึ่งเสด็จสวรรคตแล้ว และสร้างพระพุทธรูปหินอุทิศบุญกุศลถวายแด่พระมเหสีของพระมหาธรรมราชาลิไทที่ทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้วด้วยเช่นกัน”

The Legendha Sukhothai Resort
The Legendha Sukhothai Resort
The Legendha Sukhothai Resort
The Legendha Sukhothai Resort

พอพระอาทิตย์เริ่มจะตกดิน พวกเราจึงกลับเข้ามาเดินเล่นสำรวจรอบๆรีสอร์ทก่อนไปทานอาหารเย็น

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

รีสอร์ทมีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่านตรงกลาง โดยมีสะพานแขวนให้สามารถเดินข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

อีกฝั่งของสะพานเป็นโซนที่ใช้สำหรับจัดงานแต่งงานแบบไทย ด้านซ้ายเป็นห้องจัดงานพิธี ส่วนด้านขวาเป็นห้องจัดเลี้ยงอาหาร

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ถัดจากโซนสำหรับจัดงานแต่งงานเป็นห้องครัวของรีสอร์ท โดยมีห้องครัวจำลองสมัยก่อนมาจัดแสดงบริเวณด้านหน้า

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

มุมสวยๆนี้อยู่ด้านหลังของเวทีจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมของสุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ปกติจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของสุโขทัยในช่วงเย็น ระหว่างรับประทานอาหารค่ำ แต่ช่วงที่เราไปงดการจัดแสดงชั่วคราว

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ห้องอาหารเย็นอยู่บริเวณด้านหน้าของรีสอร์ท

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

มีอาหารให้เลือกมากมายหลายเมนู พร้อมด้วยขนมหวานและผลไม้

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

มีซุ้มผัดไทยที่แม่ครัวจะคอยผัดให้ใหม่ร้อนๆ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

บรรยากาศภายในห้องอาหาร

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ผัดไทยเส้นนุ่ม ให้เครื่องเยอะ รสชาติดีมาก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว พนักงานจะมอบก้านมะลิห้อยปลายด้วยปลาตะเพียนสานให้กับแขกทุกคนเป็นที่ระลึก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

แผนที่สรุปการเดินทาง

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย แผนที่

DAY 2

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยมื้อเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ท

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

กินอาหารง่ายๆอย่างไข่ดาว ออมเล็ต และเบคอน

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ตบท้ายด้วยของหวานอย่างขนมครก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ขนมผิงของขึ้นชื่อของจังหวัดสุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

และโยเกิร์ตโฮมเมดที่รีสอร์ททำเอง

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

หลังจากกินอิ่มก็กลับไปเก็บของเพื่อเช็คเอาท์ออกจากที่พัก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ได้รับขนมผิงเป็นที่ระลึก 1 กล่อง

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ก่อนออกมาพวกเราแวะถ่ายรูปเก็บบรรยากาศบริเวณรอบๆรีสอร์ทอีกนิดหน่อย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นมาก มีต้นไม้น้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

เรือนไทยไม้สักแต่ละหลัง ถูกเพิ่มเติมสีสันและความมีชีวิตชีวา ด้วยเครื่องประดับพื้นบ้านหลากหลาย เพื่อสร้างบรรยากาศให้เสมือนอยู่ในหมู่บ้านเรือนไทยสมัยก่อนได้อย่างลงตัว

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

จุดหมายแรกของวันนี้ในช่วงเช้า คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ครอบคลุมพื้นที่โบราณสถานกรุงสุโขทัย อดีตศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรสุโขทัยซึ่งมีอำนาจอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18-19

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

ที่นี่เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ปกติอัตราค่าเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย 20 บาท และชาวต่างชาติ 40 บาท

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

หากต้องการนำรถยนต์เข้าชมจะต้องเสียค่ารถคันละ 50 บาท แต่สำหรับใครที่ไม่ได้เช่ารถยนต์ ก็สามารถเช่ารถจักรยานหรือใช้บริการรถสามล้อเครื่องจากโรงแรม The Legendha ได้เลย สะดวกมากๆ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

วัดมหาธาตุ

จุดแรกที่เราไปคือ วัดมหาธาตุ เป็นวัดใหญ่อยู่กลางเมือง สร้างสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระเจดีย์ต่างๆ รวมถึง 200 องค์ นับเป็นวัดสำคัญประจำกรุงสุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

มีพระเจดีย์มหาธาตุ ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ศิลปะแบบสุโขทัยแท้ตั้งเป็นเจดีย์ประธาน

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

ล้อมรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์ บนฐานเดียวกัน คือ ปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ที่ทิศทั้ง 4 และเจดีย์แบบศรีวิชัยผสมลังกาก่อด้วยอิฐอยู่ที่มุม

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันได้รับการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

ด้านเหนือและด้านใต้เจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มพระ เรียกว่า “พระอัฎฐารศ” ด้านใต้ยังพบแท่งหินเรียกว่า “ขอมดำดิน” อีกด้วย
ที่มา : https://goo.gl/UgHRFO

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

วัดศรีสวาย

จุดที่สองคือ วัดศรีสวาย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากวัดมหาธาตุไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 350 เมตร

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดศรีสวาย

โบราณสถานที่สำคัญตั้งอยู่ในกำแพงแก้ว ประกอบด้วยปรางค์ 3 องค์ รูปแบบศิลปะลพบุรี ลักษณะของปรางค์ค่อนข้างเพรียว ตั้งอยู่บนฐานเตี้ยๆ ลวดลายปูนปั้นบางส่วนเหมือนลายบนเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดศรีสวาย

ได้พบทับหลังสลักเป็นรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ ชิ้นส่วนของเทวรูปและศิวลึงค์ที่แสดงให้เห็นว่าเคยเป็น เทวสถานในศาสนาฮินดูมาก่อน แล้วแปลงเป็นพุทธสถานโดยต่อเติมวิหารขึ้นที่ด้านหน้า แล้วเป็นวัดในพุทธศาสนาภายหลัง
ที่มา : https://goo.gl/UgHRFO

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดศรีสวาย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดศรีสวาย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดศรีสวาย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดศรีสวาย

วัดสระศรี

จุดต่อมาคือ วัดสระศรี เป็นวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัดมหาธาตุ เป็นโบราณสถานสำคัญอยู่บริเวณกลางสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ ชื่อว่า ตระพังตระกวน

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดสระศรี

โบราณสถานที่สำคัญของวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานทรงลังกา

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดสระศรี

วิหารขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้า ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย มีเจดีย์ขนาดเล็กศิลปศรีวิชัยผสมลังกา ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ และมีซุ้มพระพุทธรูป 4 ทิศ ด้านหน้ามีเกาะกลางน้ำขนาดย่อมเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดสระศรี

วัดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม ที่มา : https://goo.gl/UgHRFO

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดสระศรี

พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

สำหรับจุดสุดท้ายก่อนมื้อกลางวัน พวกเราขับออกมาบริเวญด้านหน้าของอุทยาน เพื่อแวะสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็นพระบรมรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดำ ขนาด 2 เท่าขององค์จริง สูง 3 เมตร ประทับนั่งห้อยพระบาทบนพระแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน พระแท่นด้านซ้ายมีพานวางพระขรรค์ไว้ข้างๆ ลักษณะพระพักตร์เหมือนอย่างพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น ถ่ายทอดความรู้สึกว่าพ่อขุนรามคำแหงมหาราชมีน้ำพระทัยเมตตากรุณา ยุติธรรมและเฉียบขาด ที่ด้านข้างมีภาพแผ่นจำหลักจารึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ตามที่อ้างถึงในจารึกสุโขทัย
ที่มา : https://goo.gl/UgHRFO

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย

สำหรับมื้อกลางวันพวกเราตั้งใจจะไปกินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดสุโขทัยที่ “ร้านตาปุ้ย” ร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยเจ้าแรกในสุโขทัย ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่อง เยื้องกับปั๊มน้ำมัน ปตท. ก่อนถึงสี่แยกคลองโพธิ์ ถ้ามาจากทางฝั่งอุทยานฯให้ยูเทิร์นหน้าปั๊ม โดยอยู่ห่างจากอุทยานฯประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านตาปุ้ย

สามารถจอดรถได้ที่บริเวณด้านหลังของร้าน

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านตาปุ้ย

มีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบห้องแอร์และพัดลม มื้อกลางวันของพวกเราทานกันตอนเกือบบ่ายสามโมงลูกค้าจึงไม่เยอะและไม่ต้องรอนาน

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านตาปุ้ย
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านตาปุ้ย

เราสั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยเส้นเล็กน้ำใส่ทุกอย่าง ส่วนตากลมสั่งเส้นเล็กแห้งไม่ใส่ผักโรย และสั่งเกี้ยวทอดกรอบมากินด้วยกัน

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านตาปุ้ย

ของเราได้เครื่องเยอะและรสชาติเข้มข้นมาก ส่วนของตากลมก็อร่อยถูกใจเธอมากเช่นกัน

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านตาปุ้ย

เกี้ยวทอดกับน้ำจิ้มพริกเผารสหวานก็เข้ากันได้ดีมาก

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านตาปุ้ย

Le Charme Sukhothai Resort

ทานเสร็จจึงขับรถกลับมาแวะเช็คอินเข้าที่พักของคืนที่สอง โดยเราเปลี่ยนมาพักกันที่ Le Charme Sukhothai Resort รีสอร์ทสไตล์ไทยร่วมสมัย รายล้อมไปด้วยสระน้ำและต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ห้องพักของเราเป็นแบบ Deluxe โซนติดริมสระน้ำ มีระเบียงยื่นออกไปด้านนอก ภายในห้องกว้างมาก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

มีเตียงทั้งหมด 2 เตียง เตียงเล็กสำหรับนอน 1 คน และเตียงใหญ่สำหรับนอน 2 คน

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ระเบียงด้านนอกมีโต๊ะและเก้าอี้ให้ออกไปนั่งชิลชมวิวสระน้ำได้

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีให้อย่างครบครัน โดยเฉพาะไดร์เป่าผมที่สำคัญมากสำหรับผู้หญิง

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ห้องน้ำที่นี่มีพื้นที่กว้างมาก ยิ่งติดกระจกบานใหญ่เข้าไปยิ่งให้ความรู้สึกโล่งโปร่งสบายมากยิ่งขึ้น และมีการแยกโซนแห้งและเปียกได้เป็นอย่างดี

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

สุเทพสังคโลก

หลังจากแวะหลบแดดของช่วงบ่ายเข้าไปนอนตากแอร์ที่ห้องอยู่สักพัก ก็ออกมาเที่ยวกันต่อที่ สุเทพสังคโลก (Ganesha Ceramic Gallery) ซึ่งเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เครื่องเคลือบดินเผาสังคโลก ตั้งอยู่ด้านหลังของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง

สุเทพสังคโลก

ที่นี่นอกจากจะมีการผลิตเครื่องสังคโลก ซึ่งเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เพื่อการค้าและการส่งออกแล้ว ยังมีการเปิด Workshop สอนเขียนลายเครื่องสังคโลกให้กับผู้ที่สนใจอีกด้วย

สุเทพสังคโลก

โดยทางศูนย์จะเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดให้พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเขียนลาย จากนั้นก็เพียงทิ้งที่อยู่ของเราเอาไว้ ทางศูนย์ก็จะนำชิ้นงานของเราเข้าเตาเผาและจัดส่งไปให้ถึงบ้าน คิดค่าบริการรวมค่าจัดส่งคนละ 250 บาท

สุเทพสังคโลก
สุเทพสังคโลก

เดินสำรวจดูรอบๆจนมาเจอกับผลงานชิ้นนี้ที่สามารถปั้นออกมาได้เหมือนจริงที่สุด

สุเทพสังคโลก

อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง

เดิมทีช่วงบ่ายของวันที่สองเราวางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวกันที่วัดวาลุการามและชุมชนบ้านไม้โบราณ อำเภอคีรีมาศ แต่เมื่อช่วงเช้าจนถึงบ่ายโดนแดดจากอุทยานฯเล่นงานจนหมดแรง เลยต้องปรับแพลนเปลี่ยนไปสุเทพสังคโลกแทน

อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง

แต่เราก็ยังเหลือจุดหมายที่ตั้งใจจะไปอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งตอนแรกตั้งใจว่าจะแวะตอนขากลับจากอำเภอคีรีมาศ นั้นก็คือ “อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง” อ่างเก็บน้ำที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง สถานที่ที่เราค้นพบโดยบังเอิญจากกูเกิ้ลแมพตอนหาเส้นทางไปยังอำเภอคีรีมาศ

อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง

เราลองใช้โหมด Street View เพื่อสำรวจบริเวณรอบๆอ่างเก็บน้ำจากภาพจริง ก็พบว่าที่นี่น่าสนใจมาก มีถนนอยู่บนสันเขื่อนที่สามารถขับรถขึ้นไปจอดชมวิวได้

อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง

โดยมีวิวด้านหน้าเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีพื้นหลังเป็นภูเขาเรียงรายสลับซับซ้อน ส่วนด้านหลังเป็นวิวทุ่งนาไกลสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศดีมากๆ

อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง

ที่นี่อยู่ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยประมาณ 25 กิโลเมตร ขับตรงมาตามทางหลวงชนบทหมายเลข 1272 ตัดเข้าถนนหมายเลข 3049 แล้วตรงมาเรื่อยๆก็จะถึงอ่างเก็บน้ำ ถ้าจะเอาให้ง่ายก็เปิดกูเกิ้ลแมพแล้วขับตามมาได้เลยไม่หลงแน่นอน แถมถนนโคตรดี วิวข้างทางก็โคตรสวย ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง

อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง

แนะนำให้มาถึงที่นี่สัก 5 โมงเย็นจะกำลังดี ทันรอดูพระอาทิตย์ตกดิน โรแมนติกเหมือนกันนะ ต้องพาแฟนมาให้ได้

อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง

พอฟ้าเริ่มมืดแนะนำให้รีบขับกลับออกมา เพราะระหว่างทางตอนกลางคืนมืดและค่อนข้างเปลี่ยว

อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง

วัดราชธานี

หลังจากกลับจากอ่างเก็บน้ำ เราขับรถเล่นจนไปโผล่ในตัวเมือง ขับผ่านวัดราชธานีเห็นมีร้านค้ามาตั้งร้านขายของริมกำแพงวัดหลายร้าน จึงหาที่จอดรถและแวะลงไปเดินเล่น

วัดราชธานี

ที่วัดกำลังมีงานบุญเล็กๆ เพื่อบูรณะศาลาการเปรียญ

วัดราชธานี
วัดราชธานี

มีเครื่องเล่นและสวนสนุกมามอบความสุขให้กับเด็กๆ และเราทั้งสองคน ชอบบรรยากาศงานวัดแบบนี้มากๆ

วัดราชธานี
วัดราชธานี
วัดราชธานี
วัดราชธานี
วัดราชธานี
วัดราชธานี

เดินเล่นกันจนหิวจึงขับรถกลับมากินอาหารเย็นกันที่รีสอร์ท โดยห้องอาหารสำหรับมื้อเย็นจะเป็นระเบียงยื่นออกมาริมน้ำ มีน้ำพุเปลี่ยนสีไปมาอยู่กลางสระน้ำ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

เราสั่งอาหารมาทั้งหมด 4 อย่าง มีขนมปังหน้าหมู ต้มยำกุ้งน้ำข้น ไก่ผัดเม็ดมะม่วง และปลากระพงสามรส ซึ่งตอนแรกเราก็คิดว่า 4 อย่าง น่าจะกำลังดี ไม่เยอะเท่าไหร่ สองคนน่าจะทานหมด แต่ที่ไหนได้แต่ละจานอลังการมาก ปริมาณที่ได้เราว่ามันคุ้มค่าเกินกว่าราคาที่เราต้องจ่าย แถมอร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะขนมปังหน้าหมู แต่ไหนๆก็สั่งมาแล้ว กินให้พุงกางไปเลยละกัน

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

บรรยากาศริมสระว่ายน้ำ

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

แผนที่สรุปการเดินทาง

DAY 3

ห้องอาหารเช้าตั้งอยู่ใจกลางของรีสอร์ท รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่นมาก

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

อาหารมีให้เลือกหลากหลายเมนู

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

มื้อเช้าพวกเรามักจะเลือกทานอาหารง่ายๆอย่างออมเล็ต ไข่ดาว ไส้กรอก และขนมปัง

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

ทานเสร็จจึงออกไปเดินย่อยสำรวจบรรยากาศรอบๆรีสอร์ท หมายถึงเราคนเดียวนะ เพราะคนที่เดินนำหน้าได้เลี้ยวขวาหนีกลับไปนอนเล่นรออยู่ที่ห้อง

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

รีสอร์ทล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และสระน้ำ โดยมีทางเดินเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

บรรยากาศโดยรวมถือว่าโอเคมาก มีความร่มรื่น เงียบสงบ และเป็นส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่แนะนำให้มาสัมผัส

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่พัก

พระอจนะ วัดศรีชุม

เช็คเอาท์ออกจากที่พักแล้วไปต่อกันที่ “วัดศรีชุม” หนึ่งในวัดที่ห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวที่จังหวัดสุโขทัย

วัดศรีชุม

เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีนามว่า “พระอจนะ”

วัดศรีชุม

สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง โดยปรากฏอยู่ในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 ว่า “เบื้องตีนนอนเมืองสุโขทัยนี้…..มีพระอจนะ มีปราสาท” พระประธานในมณฑปจึงมีนามว่า “พระอจนะ”

วัดศรีชุม

“พระอจนะ” คำว่า อจนะ มีผู้ให้ความหมายพระอจนะว่าหมายถึงคำในภาษาบาลีว่า “อจละ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ไม่หวั่นไหว มั่นคง” “ผู้ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้”

วัดศรีชุม

อีกหนึ่งในเรื่องเล่าของวัดศรีชุมนี้ก็คือ “พระพูดได้” ซึ่งพระในที่นี้ไม่ได้หมายถึงพระสงฆ์ แต่เป็นพระอจนะ พระพุทธรูปของวัดแห่งนี้นั่นเอง

วัดศรีชุม

โดยที่มาของเรื่องนี้มีอยู่ว่า เมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกกองทัพไปปราบกบฏที่เมืองสวรรคโลก ได้มีการจัดพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาที่วัดศรีชุม แต่การรบในครั้งนี้เป็นการรบระหว่างคนไทยด้วยกัน ทำให้เหล่าทหารไม่มีกำลังใจในการรบ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงได้มีการวางแผนสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทหารเหล่านั้น โดยการให้ทหารนายหนึ่งปีนบันไดขึ้นไปทางด้านหลังขององค์พระพุทธรูปและพูดให้กำลังใจแก่เหล่าทหาร และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดตำนาน “พระพูดได้”
ที่มา : https://goo.gl/gwI5hk

วัดศรีชุม

ความน่าสนใจอีกอย่างของวัดศรีชุมคือ เป็นสถานที่พบศิลาจารึกหลักที่สอง พูดถึงความเป็นมาของราชวงศ์พระร่วง และราชวงศ์ผาเมืองและการตั้งเมืองสุโขทัย ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันความเป็นของแท้ดั้งเดิมของจารึกหลักที่หนึ่ง เพราะมีหลายคนสงสัยว่า จารึกหลักหนึ่งเป็นของปลอมหรือไม่
ที่มา : https://goo.gl/yfQ8AN

วัดศรีชุม

พระอจนะเป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และมีมนต์เสน่ห์ ชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและสักการะอย่างไม่ขาดสาย

วัดศรีชุม
วัดศรีชุม
วัดศรีชุม

ทุ่งเสลี่ยม

เสร็จจากวัดศรีชุม พวกเรามุ่งหน้ากันต่อไปยังอำเภอทุ่งเสลี่ยม อำเภอเล็กๆที่อยู่ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยไปทางทิศเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้และทุ่งนาสีเขียว ดูแล้วสดชื่น สบายตา

ทุ่งเสลี่ยม

ก่อนจะถึงตัวอำเภอทุ่งเสลี่ยม พวกเราเห็นข้างทางมีทุ่งนาสีเขียวแปลงใหญ่ จึงตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในถนนที่ไม่รู้จัก เพื่อหาจุดถ่ายรูป ขับจนมาเจออยู่จุดนึงที่มีถนนอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายและขวาเป็นทุ่งนากว้างสุดสายตา

ทุ่งเสลี่ยม

จึงจอดรถแวะถ่ายรูปเล่นเก็บบรรยากาศกันอยู่สักพัก

ทุ่งเสลี่ยม
ทุ่งเสลี่ยม
ทุ่งเสลี่ยม
ทุ่งเสลี่ยม

ส้มตำยกครก

ขับต่อมาอีกสักพักก็เข้ามาถึงตัวอำเภอทุ่งเสลี่ยม โดยมาแวะฝากท้องมื้อกลางวันกันที่ร้านส้มตำยกครก

ส้มตำยกครก

เป็นร้านส้มตำที่ตกแต่งร้านได้อย่างน่าสนใจและมีเอกลักษณ์ โดยใช้ข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน ซึ่งเป็นของสะสมของพี่เจ้าของร้านมาจัดวางตกแต่งบริเวณรอบร้านได้อย่างลงตัว

ส้มตำยกครก

ด้านในมีที่นั่งประมาณ 5 ชุด สามารถนั่งได้ชุดละประมาณ 5-10 คนแล้วแต่ขนาดของโต๊ะ ถึงแม้ว่าด้านนอกแดดจะร้อน แต่ภายในร้านกลับเย็นสบายกำลังดี

ส้มตำยกครก
ส้มตำยกครก

ร้านเปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง

ส้มตำยกครก
ส้มตำยกครก

อาหารแซ่บทุกอย่าง ไม่เสียแรงที่ดั้นด้นมาไกล

ส้มตำยกครก

หลวงพ่อศิลา

จุดหมายต่อไปคือ “วัดทุ่งเสลี่ยม” สถานที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อศิลา” พระพุทธรูปนาคปรกปางสมาธิ สร้างขึ้นจากหินทรายสีเทา มีศิลปะแบบสุโขทัยผสมผสานกับศิลปะสมัยลพบุรี แรกเริ่มเดิมทีหลวงพ่อศิลานั้นตั้งอยู่ภายในถ้ำเจ้าราม แล้วได้มีการอัญเชิญมาไว้ที่วัดทุ่งเสลี่ยม แต่เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2520 ได้มีการโจรกรรมหลวงพ่อศิลาหายไปจากวัด

วัดทุ่งเสลี่ยม

จวบจน 17 ปีหลังจากนั้น จึงได้ทราบว่าหลวงพ่อศิลากำลังถูกประมูลอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อชาวบ้านทราบเรื่องจึงได้มีการติดต่อหน่วยงานราชการให้ติดตามหลวงพ่อศิลากลับมา เมื่อมีการติดตามไปยังประเทศอังกฤษ หลวงพ่อศิลาได้ถูกประมูลและเคลื่อนย้ายไปยังสหรัฐอเมริกาแล้ว ทางทนายของผู้ประมูลได้แจ้งว่าไม่ทราบว่าหลวงพ่อศิลาถูกโจรกรรมมา จึงยินดีที่จะคืนให้ แต่มีการเรียกค่าชดเชยประมาณสองแสนเหรียญสหรัฐ หรือราว ๆ 5,200,000 บาท โดยนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการในเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายวัลลภ เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักในการสนับสนุนค่าชดเชยดังกล่าว เพื่อให้หลวงพ่อศิลากลับคืนสู่วัดทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2539
ที่มา : https://goo.gl/nttYhm

วัดทุ่งเสลี่ยม

ตอนนี้ทางวัดมีโครงการก่อสร้างอุโบสถล้านนาวัดทุ่งเสลี่ยม หากใครมีโอกาสได้แวะไปเที่ยวอย่าลืมไปร่วมทำบุญใหญ่ด้วยกันนะ

วัดทุ่งเสลี่ยม
วัดทุ่งเสลี่ยม
วัดทุ่งเสลี่ยม

บ้านหอมกลิ่นดิน

ขับออกมาจากตัวอำเภอทุ่งเสลี่ยมอีกประมาณ 7 กิโล ก็จะเจอกับ “บ้านหอมกลิ่นดิน” ร้านกาแฟสุดชิคที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา

บ้านหอมกลิ่นดิน

การตกแต่งของร้านผสมผสานกันระหว่างสไตล์ยุโรปและโมเดิร์นลอฟท์

บ้านหอมกลิ่นดิน

มีพื้นที่ให้นั่งชิลทั้งในตัวอาคารหลักที่มีกังหันลมอยู่ด้านบน และพื้นที่รอบๆตัวอาคาร แต่ช่วงบ่ายจะค่อนข้างร้อนเพราะแดดส่อง

บ้านหอมกลิ่นดิน
บ้านหอมกลิ่นดิน

พอสั่งเสร็จจะได้รับบัตรคิวอันจิ๋วแบบนี้ จากนั้นก็รอเรียกตามคิวได้เลย

บ้านหอมกลิ่นดิน

เครื่องดื่มมีให้เลือกหลายแบบทั้งร้อนและเย็น ราคาเริ่มต้นที่ 35 – 50 บาท ส่วนเมนูปั่น 55 – 60 บาท นอกจากนี้ยังมีอาหารและของกินเล่นขายด้วยนะ

บ้านหอมกลิ่นดิน

ที่ยืนอยู่นั่นก็คือเจ้าของนา ไม่ใช่ๆนั่นเราเอง

บ้านหอมกลิ่นดิน

สุขาอยู่หนนี้

บ้านหอมกลิ่นดิน
บ้านหอมกลิ่นดิน

ด้านบนมีระเบียงเปิดโล่ง สามารถขึ้นไปนั่งจิบกาแฟชมวิวทุ่งนาจากมุมสูงได้ด้วยนะ

บ้านหอมกลิ่นดิน
บ้านหอมกลิ่นดิน
บ้านหอมกลิ่นดิน
บ้านหอมกลิ่นดิน
บ้านหอมกลิ่นดิน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 09.00 – 20.00 น. (ปิดวันพุธ) พิกัด : https://goo.gl/4vq8Kz

บ้านหอมกลิ่นดิน

สนามบินสุโขทัย

นั่งชิลจนพอใจจึงออกเดินทางกันต่อ เพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามบินสุโขทัยจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้ ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 36 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที พอมาถึงก็ติดต่อคืนรถเช่าที่จุดเดิม แล้วหอบของมาที่อาคารขาออกเพื่อเช็คอิน

สนามบินสุโขทัย

ขากลับเราเลือกเที่ยวบิน PG 214 ออกเวลา 18.45 เที่ยวนี้เวลาดีมาก กลับไม่เร็วและถึงไม่ดึกจนเกินไป มีเวลาเที่ยววันสุดท้ายได้อย่างเต็มที่

สนามบินสุโขทัย

หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้วยังพอมีเวลาเหลือ เลยออกไปเดินเล่นรอบๆสนามบิน

สนามบินสุโขทัย

ออกไปยืนชมวิวพระอาทิตย์ค่อยๆลาลับขอบฟ้า

สนามบินสุโขทัย

พอเริ่มมืดจึงเปลี่ยนเข้าไปนั่งพักภายในอาคารผู้โดยสารขาออก

สนามบินสุโขทัย

มีบริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม

สนามบินสุโขทัย
สนามบินสุโขทัย
สนามบินสุโขทัย
สนามบินสุโขทัย
สนามบินสุโขทัย

เมื่อถึงเวลาจะมีรถรางมาจอดรับที่บริเวณด้านหน้าแล้วพาไปส่งขึ้นเครื่อง ชวนให้นึกถึงตอนนั่งรถรางไปเรียนสมัยมหา’ลัย

สนามบินสุโขทัย

เมนูอาหารขากลับคือ ผัดไทยกุ้งสด กุ้งสดและตัวใหญ่มาก ตบท้ายด้วยผลไม้ น้ำส้มคั้นและชามะนาวร้อนๆ

สนามบินสุโขทัย

แผนที่สรุปการเดินทาง

จบแล้วสำหรับทริปพาแฟนออกเดินทางย้อนเวลา ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 3 วัน 2 คืน น่าจะพอเป็นไกด์ไลน์ให้ออกไปตามรอยกันได้ไม่มากก็น้อย ยิ่งช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้น่าจะอากาศดีมากๆ ลองหาเวลาว่างออกไปพักกายและใจที่สุโขทัยกันดูนะ


สรุปรายละเอียดการเดินทาง ดังนี้

DAY 1

  1. เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ
  2. ชมแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจกลางทุ่งทะเลหลวง
  3. ถึงสนามบินสุโขทัย (1 ชั่วโมง 15 นาที)
  4. พักที่ The Legendha Sukhothai Resort
  5. วัดช้างล้อม (อยู่ด้านหลังที่พัก)

DAY 2

  1. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
    • วัดมหาธาตุ
    • วัดศรีสวาย
    • วัดสระศรี
  2. พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
  3. มื้อเที่ยง ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านตาปุ้ย
  4. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง (แนะนำเพิ่มเติม)
  5. ศูนย์เรียนรู้เครื่องเคลือบดินเผาสังคโลก
  6. อ่างเก็บน้ำท่าดินแดง อ.คีรีมาศ (Unseen)
  7. เดินเล่นงานวัด วัดราชธานี
  8. พักที่ Le Charme Sukhothai Resort

DAY 3

  1. วัดศรีชุม (ห้ามพลาด)
  2. ชมทุ่งนาสีเขียวระหว่างทางไปอำเภอทุ่งเสลี่ยม
  3. มื้อเที่ยง ส้มตำยกครก
  4. สักการะหลวงพ่อศิลา วัดทุ่งเสลี่ยม (แนะนำ)
  5. ร้านกาแฟบ้านหอมกลิ่นดิน
  6. สนามบินสุโขทัย – สุวรรณภูมิ

ช่วงเวลาเดินทาง : 22 – 24 ตุลาคม 2559


คิ้วหนา & ตากลม
Love is a journey | เพราะความรัก คือ การเดินทาง…

RELATED POSTS