น่าน

น่าน หน้าฝนต้นเดือนสิงหา นอนโฮมสเตย์กลางทุ่งนา 3 วัน 2 คืน

น่าน

หากพูดถึงจังหวัด น่าน สิ่งแรกที่พวกเรามักจะนึกถึงก็คือ บรรยายกาศของทุ่งนาสีเขียวกว้างสุดลูกหูลูกตา โดยมีพื้นหลังเป็นท้องฟ้าและภูเขาสลับซับซ้อน เหมือนกับภาพวาดในจินตนาการสมัยประถมที่มักจะวาดส่งครูในวิชาศิลปะ หรือภาพวาดกระซิบรักของปู่ม่านย่าม่านบนฝาผนังของวัดภูมินทร์ที่ชวนให้อยากรู้ว่า นอกจากคำบอกรักแล้ว ปู่กับย่าคุยเรื่องอะไรกันอีกบ้าง และยังมีอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจ เย้ายวนชวนให้ออกไปสัมผัสกับดินแดนแห่งนี้ด้วยตัวเราเอง เหมาะกับการพาแฟนไปกระซิบรักท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม

สนามบินดอนเมือง

การเดินทางครั้งนี้พวกเราเริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นตั๋วราคาโปรโมชั่นที่พวกเราจองเอาไว้ข้ามปีในราคาหลักร้อย

สนามบินน่าน

หลังจาก Check In และพิมพ์ ฺBoarding Pass เรียบร้อยแล้ว พวกเราแวะทานข้าวกลางวันกันที่ Bonchon ทางไป Gate 60 ร้านประจำที่พวกเรามักจะแวะฝากท้องก่อนออกเดินทาง ราคาแพงกว่าข้างนอกนิดหน่อยแต่ก็พอรับได้

สนามบินน่าน

ท่าอากาศยานน่านนคร

การเดินทางไปยังจังหวัดน่านของสายการบินแอร์เอเชียมีทั้งหมด 2 เที่ยว/วัน คือ 7.35 น. และ 14.35 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

สนามบินน่าน

พวกเรามาถึงสนามบินน่านนครช้ากว่ากำหนดประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากฝนตกหนัก จึงต้องบินไปแอ่วสนามบินเชียงใหม่เพื่อเติมน้ำมันและบินกลับมาใหม่ สนามบินน่านนครปรับปรุงใหม่ไฉไลมาก

สนามบินน่าน

จากนั้นก็มาติดต่อรับรถยนต์จาก Thai Rent A Car ที่พวกเราเช่าเอาไว้ล่วงหน้า เคาร์เตอร์ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือของประตูทางออกของจุดรับกระเป๋า เอกสารที่ใช้ประกอบด้วยบัตรประชาชน ใบขับขี่ และบัตรเครดิต โดยบริษัทจะขอล๊อควงเงินในบัตรเป็นค่ามัดจำ 10,000 บาท และคืนให้หลังจากคืนรถประมาณ 14 วัน

สนามบินน่าน

เจ้าหน้าที่จะไปขับรถมาจอดบริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร เพื่อให้เราตรวจสอบรอยขีดข่วนรอบตัวรถ เทคนิคของเราคือ ตรงไหนที่มีรอยเราจะถ่ายรูปไว้ทั้งหมด เพื่อความสบายใจ จากนั้นก็เซ็นต์รับรถและออกเดินทางไปยังที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน (สนามบินอยู่ใกล้กับตัวเมืองมาก)

สนามบินน่าน

ท่าลี่ โฮมสเตด (TA – LI Homestead)

คืนแรกพวกเราพักกันที่ ท่าลี่ โฮมสเตด (TA – LI Homestead) ที่พักสไตล์ลอฟท์ครึ่งปูนครึ่งไม้ 3 ชั้น ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนมาเยี่ยมบ้านญาติที่ต่างจังหวัด

ท่าลี่ โฮมสเตด
ที่พัก น่าน

บริเวณชั้นล่างจะเป็นล๊อบบี้ ห้องอาหาร และห้องนั่งเล่น

ท่าลี่ โฮมสเตด

ส่วนห้องพักทั้งหมดจะอยู่ด้านบนชั้น 2 และชั้น 3

ที่พัก น่าน

ตรงกลางมีโถงให้นั่งเล่น

ท่าลี่ โฮมสเตด
ที่พัก น่าน

ห้องพักของพวกเราเป็นแบบ Deluxe King Room ผนังและพื้นห้องตกแต่งด้วยไม้ขัดมัน ใช้ไฟแสงสีส้มให้ความรู้สึกอบอุ่น

ท่าลี่ โฮมสเตด

เตียงและหมอนนุ่มมาก ภายในห้องโล่งโปร่งสบาย ไม่อับชื้นและไม่มีฝุ่น ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องไม้

ที่พัก น่าน

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทีวี ฟรีไวไฟ ไดร์เป่าผม ตู้เย็น และแอร์ ฯลฯ

ท่าลี่ โฮมสเตด

ห้องน้ำกว้างและสะอาด มีเครื่องทำน้ำอุ่น สบู่ และยาสระผมให้

ที่พัก น่าน

ถนนคนเดินวัดภูมินทร์

จากนั้นพวกเราก็ออกมาเดินเล่นกันที่ถนนคนเดิน บริเวณข้างวัดภูมินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักเพียงแค่ 350 เมตร ใช้เวลาเดินไม่ถึง 5 นาที

ถนนคนเดิน น่าน

ถนนคนเดินมีทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เป็นถนนคนเดินเส้นสั้นๆ แบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรกเป็นเสื้อผ้า ของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก ส่วนอีกโซนเป็นอาหารหลากหลายเมนู

ถนนคนเดิน น่าน

สิ่งที่ตากลมมักจะไม่เคยพลาดเมื่อได้มาเดินถนนคนเดินในต่างจังหวัด นั่นก็คือการช๊อปปิ้งเสื้อผ้าท้องถิ่น

ถนนคนเดิน น่าน

โดยเฉพาะผ้านุ่ง ผ้าถุง หรือผ้าซิ่น ที่ถักทอเป็นลวดลายบ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น

ถนนคนเดิน น่าน

เดินเล่นได้ไม่นานก็มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย ร้านค้าก็ยังคงขายกันต่อไป

ถนนคนเดิน น่าน

มีอาหารให้เลือกทานเยอะมาก แต่ที่ถูกปากเราที่สุดก็คือ หมี่ยำเมืองน่าน เส้นนุ่ม รสชาติกลมกล่อม เนื่องจากฝนตก จึงนั่งทานที่ลานหน้าวัดภูมินทร์ไม่ได้ พวกเราจึงซื้ออาหารมานั่งทานกันที่โรงแรม

ถนนคนเดิน น่าน

เช้าวันที่สอง เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าที่โรงแรม ซึ่งถูกจัดใส่ถาดไม้ไผ่สานมาเป็นชุด คนละ 1 ชุด

ที่พัก น่าน

ประกอบด้วยข้าวสวย และกับข้าว 3 อย่าง ได้แก่ น้ำพริงอ่องและผักสด จอผักกาด หน่อไม้อั่วกับน้ำจิ้มถั่ว ส่วนน้ำพริกงาดำถ้วยเล็ก ๆ เจ้าของที่พักเอามาให้ลองชิม อาหารอร่อยทุกอย่าง แถมเจ้าของก็ใจดีและเป็นกันเองมาก

ที่พัก น่าน

ฝนตกปรอยๆมาตั้งแต่เช้ามืดและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แผนการตื่นมาใส่บาตรตอนเช้าจึงถูกยกเลิกไป และถูกแทนที่ด้วยการขดตัวอยู่ในผ้าห่มอุ่น ๆ จนเกือบ 11 โมง จากนั้นก็เช็คเอาท์ออกจากที่พัก

ที่พัก น่าน

แพลนของวันนี้คือการเดินทางไปพักค้างคืนกันที่อำเภอปัว แต่ก่อนจะออกเดินทางขอแวะจิบกาแฟเพิ่มความสดชื่นกันที่ Cafe Amazon ตรงข้ามกับวัดภูมินทร์

Cafe Amazon
Cafe Amazon

ทานเสร็จก็แวะถ่ายรูปเล่นท่ามกลางสายฝน บริเวณหน้าประตูบ้านเก่าหลังหนึ่ง ด้านหน้าของร้านกาแฟ

น่าน

แต่ก็ยังไม่ได้ออกเดินทางต่อแต่อย่างใด เพราะพวกเรามีภารกิจที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็คือการออกไปตามหาเสื้อผ้าฝ้ายแขนกุด เนื่องจากเมื่อคืนตากลมซื้อมาลองใส่ 1 ตัวแล้วรู้สึกชอบ จึงอยากได้เพิ่มอีกหนึ่งตัว เลยมาเดินตามหากันแถวศูนย์โอทอปน่าน ใกล้กับวัดภูมินทร์ แต่ก็หาสีและไซด์ที่ต้องการไม่เจอ

น่าน

ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

จากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปยังอำเภอปัว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองน่านไปทางทิศเหนืออีกประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.นิด ๆ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) โดยสถานที่แรกที่เราไปคือ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เพื่อมาแวะทานข้าวกลางวัน

ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

ที่นี่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มคอยให้บริการนักท่องเที่ยว โดยร้านตั้งอยู่ริมเชิงเขา

ที่เที่ยว น่าน ปัว

มีวิวด้านหน้าเป็นผืนนาสีเขียวขจีไกลจนสุดสายตา โดยมีแม่น้ำสายเล็ก ๆ ไหลผ่าน

ที่เที่ยวน่าน ปัว
ที่เที่ยว น่าน ปัว
ที่เที่ยว น่าน ปัว
ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

เมนูอาหารเกือบทั้งหมดจะมีส่วนประกอบจากเห็ดหลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหาร

ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

ส่วนเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดก็คือ พิซซ่าเห็ด ในราคา 140 บาท แป้งนุ่ม เห็ดและชีสเข้ากันได้ดีมาก

ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

สถานที่ต่อมาซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน นั่นก็คือ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

ร้านกาแฟสดที่ตั้งอยู่ริมทุ่งนา โดยมีทางเดินไม้พาดยาวไปยังซุ้มหลังเล็ก ๆ สำหรับพักผ่อนและชมวิว

ที่เที่ยว น่าน ปัว
ที่เที่ยว น่าน ปัว

ภายในซุ้มที่มุงหลังคาด้วยหญ้าคาและปูพื้นด้วยไม้ไผ่สาน มีเบาะนุ่ม ๆ พร้อมหมอนอิงให้นั่งหรือนอนเล่น

ที่เที่ยว น่าน ปัว

บรรยากาศดีมาก ๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองจึงจะเข้าใจ

ที่เที่ยว น่าน ปัว
ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

กาแฟสดก็รสชาติดี ราคาแก้วละประมาณ 30 – 50 บาท ส่วนวิวข้างหน้าราคาหลักล้าน

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

บริเวณกลางแปลงนามีดอกคลีโอมีหรือดอกเสี้ยนฝรั่งกำลังออกดอกอย่างสวยงาม สามารถเดินเข้าไปชมใกล้ ๆ ได้

ที่เที่ยว น่าน ปัว
ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
ที่เที่ยว น่าน ปัว
ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

ทางเดินบางช่วงเป็นไม้แผ่นใหญ่ บางช่วงเป็นไม้ไผ่ เชื่อมต่อกันเป็นวงกลมวนกลับมาที่ร้านได้ และต้องใช้ความระมัดระวังในการเดิน

ที่เที่ยว น่าน ปัว
ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
ที่เที่ยว น่าน ปัว
ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
ที่เที่ยว น่าน ปัว

ในที่สุดพวกเราก็ได้พบกับวิวที่เหมือนกับภาพวาดในจินตนาการสมัยประถมที่มักจะวาดส่งครูในวิชาศิลปะ

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

มีน้องแพะเดินเล่นไปมา

ที่เที่ยว น่าน ปัว

มีกังหันน้ำขนาดใหญ่ที่ยังสามารถใช้งานได้อยู่

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
ที่เที่ยว น่าน ปัว

“ถ่ายยังไงก็ได้ให้หน้าเรียว” – แพะ

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
ที่เที่ยว น่าน ปัว

เป็นร้านกาแฟที่เรารู้สึกชอบมากที่สุดเท่าที่เคยผ่านมา เพราะว่าบรรยากาศของที่นี่ช่วยเปลี่ยนภาพในจิตนาการของวัยเด็กให้กลายเป็นภาพจริงขึ้นมาได้นั่นเอง

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

บริเวณด้านข้างของร้านกาแฟมีร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมือง มีเสื้อผ้าให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ เลือกกันจนตาลาย

ที่เที่ยว น่าน ปัว

หนึ่งในนั้นคือเสื้อผ้าฝ้ายแขนกุดสีและไซด์ที่ตากลมตามหาเมื่อเช้านี้

ที่เที่ยว น่าน ปัว

โฮมสเตย์ตานงค์

จากนั้นก็มุ่งหน้าต่อไปยัง โฮมสเตย์ตานงค์ ที่พักของพวกเราในคืนนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอปัว

โฮมสเตย์ ตานงค์

โฮมสเตย์กลางทุ่งนาที่พวกเราหมายตามาแรมปี รีบจองทันทีหลังได้ตั๋วเครื่องบิน

ที่พัก น่าน

ที่นี่มีห้องพักอยู่หลายห้อง ห้องที่พวกเราพักอยู่บนชั้น 3 ของบ้านหลังใหญ่ ซึ่งมีอยู่เพียงห้องเดียว

โฮมสเตย์ ตานงค์

ภายในห้องกว้างมาก มีเตียงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องได้แก่ ทีวี แอร์ และฟรีไวไฟ ส่วนตู้เย็นจะเป็นตู้ที่ใช้ร่วมกันตั้งอยู่ที่ชั้น 2

ที่พัก น่าน

มีห้องน้ำภายในตัว พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น แต่มีแมลงเยอะมากเกาะอยู่บนมุ่งลวดตรงช่องระบายอากาศด้านบนและตามพื้นห้องน้ำ เพราะที่นี่อยู่กลางทุ่งนา แมลงจึงบินเข้ามาเล่นไฟ อาจจะไม่เหมาะกับคนที่แพ้ง่าย เพราะมันจะทำให้คันและรำคาญหน่อย ๆ

โฮมสเตย์ ตานงค์

สำหรับอาหารเย็นสามารถสั่งชุดขันโตกกับทางโรงแรมได้ในราคาคนละ 130 บาท ไม่รวมเครื่องดื่ม

ที่พัก น่าน

นั่งทานริมสระน้ำพุ บรรยากาศดี๋ดี อาหารก็อร่อย มียุงประมาณสองสามตัวเท่านั้น

โฮมสเตย์ ตานงค์

ตอนกลางคืนอากาศเย็นสบาย มีฝนตกลงมาพรำ ๆ กระทบหลังคาเบา ๆ มีเสียงเขียดร้องประสานเสียงกับจิ้งหรีด ช่วยขับกล่อมให้นอนฝันดี ตื่นมาอีกทีตอนหกโมงเช้าของวันจันทร์ โดยไม่ต้องพึ่งเสียงของนาฬิกาปลุก

ที่พัก น่าน

บรรยากาศตอนเช้ามีหมอกอ่อน ๆ ลอยอยู่บนยอดเขา มีกลุ่มเมฆสีเทากระจายตัวอยู่ทั่วท้องฟ้า

น่าน

รู้สึกได้ถึงความหนาแน่นและความบริสุทธิ์ของออกซิเจนที่ลอยอยู่ตรงหน้า จนอยากจะมีปอดเพิ่มอีกสักสองก้อน

ที่พัก น่าน
โฮมสเตย์ ตานงค์

ดอกไม้ใบหญ้าชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดน้ำค้าง

ที่พัก น่าน
โฮมสเตย์ ตานงค์

โฉมหน้าหนึ่งในสมาชิกของวงประสานเสียง

ที่พัก น่าน

เครื่องดนตรีที่ใช้สร้างเสียงน้ำไหล

โฮมสเตย์ ตานงค์

มุมจากดาดฟ้าของกระต๊อบไม้ไผ่กลางทุ่งนา

ที่พัก น่าน
โฮมสเตย์ ตานงค์

มื้อเช้ารองท้องง่าย ๆ ด้วยข้าวต้ม

ที่พัก น่าน

โฮมสเตย์มีชุดม่อฮ่อมและหมวกให้เช่ามาถ่ายรูปเล่นที่ทุ่งนาได้ ค่าเช่าก็แล้วแต่จะให้

โฮมสเตย์ ตานงค์
ที่พัก น่าน

ช่วงที่พวกเราไปคือช่วงต้นเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่ต้นข้าวกำลังแตกใบอ่อนชูช่อรับสายฝน

โฮมสเตย์ ตานงค์

พวกเราเช็คเอาท์ออกจากที่พักในช่วงสาย ๆ และมุ่งหน้าต่อไปยังวัดร้องแง วัดเก่าแก่ของชุมชนชาวไทลื้อ ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักออกไปเพียงแค่ 6 กิโลเมตร

ที่พัก น่าน

วัดร้องแง

วัดร้องแง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2310 โดยการนำของจ้าวหลวงเทพพญาเลนเจ้าช้างเผือกงาเขียว ภายในวัดมีวิหารเก่าแก่ศิลปะไทยลื้อที่มีความสวยงามและโดดเด่น

วัดร้องแง

ด้านในของวิหารประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย บริเวณฝาผนังของวิหารเป็นภาพจิตกรรมเก่าแก่แสดงเรื่องราวพุทธประวัติเเละชาดก

ที่เที่ยว น่าน
วัดร้องแง

บริเวณเพดานประดับด้วยตุงหลากหลายลวดลายที่ชาวบ้านนำมาถวายวัด เพื่อเป็นการอุทิศบุญกุศลให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว

ที่เที่ยว น่าน
วัดร้องแง

และตะแกรงไม้ไผ่สานเป็นทรงสี่เหลี่ยม ด้านในมีดอกไม้กระจายอยู่เต็มพื้นที่ เป็นของที่ชาวบ้านนำมาถวายวัดในวันลอยกระทงของทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่เที่ยว น่าน

คุณยายทั้งสาม เอ้ย!!! ทั้งสองท่าน ผู้ถ่ายทอดความรู้เรื่องตุงและตะแกรงไม้ไผ่สาน

วัดร้องแง

หอเจ้าหลวงเทพพญาเลนช้างเผือกงาเขียว

ไม่ไกลจากตัววัดเป็นที่ตั้งของหอเจ้าหลวงเทพพญาเลนช้างเผือกงาเขียว ซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งนา

หอเจ้าหลวงเทพพญาเลนช้างเผือกงาเขียว

อนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติให้กับเจ้าหลวงเทพพญาเลน ซึ่งมีช้างเผือกงาเขียวเป็นช้างคู่บารมี

ที่เที่ยว น่าน

บริเวณตรงข้ามกับทางเข้าวัดร้องแงเป็นที่ตั้งของอาคารจัดแสดงนิทรรศการจากสิบสองพันนาสู่บ้านร้องแง

บ้านร้องแง

ด้านในจัดแสดงข้อมูลและรูปภาพที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวิถีชีวิตของชาวไทลื้อบ้านร้องแง

ที่เที่ยว น่าน

ด้านข้างของอาคารนิทรรศการจัดแสดงตัวอย่างเฮือนไทลื้อ ข้าวของเครื่องใช้ และอุปกรณ์ทำมาหากิน

บ้านร้องแง

ถัดจากวัดร้องแงไปอีกไม่ไกลเป็นที่ตั้งของวัดภูเก็ต วัดที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดภูเก็ต

ที่เที่ยว น่าน

วัดภูเก็ต

ไฮไลท์ของวัดภูเก็ตก็คือ ระเบียงชมวิวทุ่งนาเขียวขจีกว้างสุดลูกหูลูกตา โดยมีพื้นหลังเป็นภูเขาและท้องฟ้า

วัดภูเก็ต จังหวัดน่าน
ที่เที่ยว น่าน
วัดภูเก็ต จังหวัดน่าน

อีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือพระอุโบสถหลังใหญ่ที่มีภาพวาดจิตกรรมฝาผนังที่สวยสดงดงาม

ที่เที่ยว น่าน
ที่เที่ยว น่าน
วัดภูเก็ต จังหวัดน่าน

กลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านเก็ต

บริเวณตีนเขาทางลงมาจากวัดภูเก็ต มีร้านค้าจำหน่ายผ้านุ่งทอมือของกลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านเก็ต สามารถแวะชมและอุดหนุนได้ตามกำลังทรัพย์

กลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านเก็ต
ที่เที่ยว น่าน
กลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านเก็ต
ที่เที่ยว น่าน

เฮือนภูคา

จากนั้นพวกเราก็ขับรถมุ่งหน้ากลับเข้าตัวเมืองน่าน ระหว่างทางมีฝนตกอยู่เป็นระยะ และมาทานข้าวกลางวันกันที่เฮือนภูคา

เฮือนภูคา

ร้านอาหารที่ตกแต่งแบบล้านนา โดยมีเสียงดนตรีบรรเลงเพลงคำเมืองคลอเบา ๆ

เฮือนภูคา

มีอาหารพื้นเมืองน่านให้เลือกทานหลากหลายเมนู โดยเมนูที่อยากจะแนะนำก็คือ ผักเซียงดาผัดไข่

เฮือนภูคา

วัดภูมินทร์

หลังจากท้องอิ่มพวกเราก็มาต่อกันที่วัดภูมินทร์

วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์

ศาสนสถานที่สำคัญของวัดก็คือ พระอุโบสถทรงจตุรมุข

วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์

ภายในประดิษฐานพระประธานจตุรพักตร์นาคสะดุ้งขนาดใหญ่แห่แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัวนาค

วัดภูมินทร์

ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม” ภายในพระอุโบสถ โดยฝีมือของ หนานบัวผัน สล่าชาวไทลื้อในสมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมื่อ พ.ศ.2410 แสดงเรื่องราวพุทธประวัติเเละชาดก

วัดภูมินทร์

และภาพวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยนั้น

วัดภูมินทร์

ภาพที่ถือว่าเป็นไฉไลท์ของวัดภูมินทร์ที่ทุกคนต้องแวะมาเยี่ยมชมก็คือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณกระซิบสนทนากัน ที่มาของคำว่า “กระซิบรักบรรลือโลก”

วัดภูมินทร์

ภาพกระซิบรักปู่ม่านย่าม่าน มีบทบรรยายอันสละสลวยเป็นภาษาล้านนา ซึ่งต่อมาได้รับการแปลถ่ายทอดโดย อาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอักษรล้านนา ถอดคำบรรยายภาพนี้ออกมาอย่างวิจิตรไพเราะ ดังนี้

“ความรักของพี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวมันเหน็บหนาว จะฝากไว้กับท้องฟ้า อากาศ กลางหาวก็กลัวเมฆหมอกมาขลุ้ม จะเอาฝากไว้ในข่วง ในคุ้ม ก็กลัวเจ้ากลัวนายมาเจอะเจอแย่งรักของพี่ไป ก็เลยเอาฝากไว้ในอกในใจขอตัวพี่ให้มันร่ำให้อะฮิ อะฮี้ ถึงน้องทุกยามสะดุ้งตื่นเววา”

วัดภูมินทร์

วัดมิ่งเมือง

และวัดสุดท้ายของทริปนี้ก็คือ วัดมิ่งเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน

วัดมิ่งเมือง

ลักษณะเด่นของศาลหลักเมืองและพระอุโบสถก็คือลายปูนปั้นสีขาวที่มีลวดลายละเอียดอ่อนและวิจิตรบรรจง

วัดมิ่งเมือง

ภายในพระอุโบสถประดิษฐานองค์พระประธานนามว่าหลวงพ่อพระศรีมิ่งเมือง

วัดมิ่งเมือง

มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพตำนานประวัติเมืองน่านที่งดงาม

วัดมิ่งเมือง

จากนั้นพวกเราก็รีบมุ่งหน้าไปยังสนามบินน่านนคร โดยแวะเติมน้ำมันคืนให้เต็มถังก่อนคืนรถที่สนามบิน และเดินทางกลับกรุงเทพด้วยสายการบินแอร์เอเชีย รอบ 16.00 น. ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของวัน ก็เป็นอันจบทริปพาแฟนไปเที่ยว น่าน หน้าฝนต้นเดือนสิงหา นอนโฮมสเตย์กลางทุ่งนา ด้วยระยะเวลา 3 วัน 2 คืน อย่างสมบูรณ์

เที่ยวน่าน

สรุปรายละเอียดการเดินทาง ดังนี้

DAY 1

  1. ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน Airasia เที่ยวบินที่ FD 3556 เวลา 14.35 น.
  2. เช็คอินท์เข้าที่พัก ณ ท่าลี่ โฮมสเตด
  3. เดินเล่นถนนคนเดิน น่าน

DAY 2

  1. ทานอาหารเช้าที่โรงแรม และแวะจิบกาแฟที่ Cafe Amazon ตรงข้ามวัดภูมินทร์
  2. แวะช๊อปปิ้งที่ศูนย์โอทอปน่าน
  3. ทานอาหารกลางวันที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ อ.ปัว
  4. จิบกาแฟยามบ่ายและชมวิวทุ่งนา ณ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ อ.ปัว
  5. แวะช๊อปปิ้งร้านจำหน่ายเสื้อผ้าพื้นเมือง ข้างร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
  6. เช็คอินท์เข้าที่พัก ณ โฮมสเตย์ตานงค์ อ.ปัว

DAY 3

  1. สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า ณ โฮมสเตย์ตานงค์
  2. แวะเที่ยวชมวัดร้องแง และหอเจ้าหลวงเทพพญาเลนช้างเผือกงาเขียว อ.ปัว
  3. แวะเที่ยวชมนิทรรศการจากสิบสองพันนาสู่บ้านร้องแง
  4. ชมวิวทุ่งนา ณ วัดภูเก็ต อ.ปัว
  5. แวะช๊อปปิ้งร้านค้าจำหน่ายผ้านุ่งทอมือของกลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านเก็ต อ.ปัว
  6. ทานอาหารกลางวันที่ร้านเฮือนภูคา ในตัวเมืองน่าน
  7. แวะชมภาพกระซิบรักบรรลือโลก ณ วัดภูมินทร์
  8. แวะสักการะศาลหลักเมืองน่าน ณ วัดมิ่งเมือง
  9. เดินทางกลับกรุงเทพ ด้วยสายการบิน Airasia เที่ยวบินที่ FD 3557 เวลา 16.00 น.

ช่วงเวลาเดินทาง : 5 – 7 สิงหาคม 2560


สรุปรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ดอนเมือง – น่าน คนละ 780 บาท (ราคาโปรโมชั่น จองข้ามปี)
  2. ค่าเช่ารถยนต์ Thai Rent A Car จำนวน 2 วัน (24 ชม.= 1 วัน) 2,400 บาท
  3. ค่าน้ำมันตลอดทริป 360 บาท
  4. ค่าที่พัก ท่าลี โฮมสเตด ห้อง Deluxe King Room จำนวน 1 คืน 1,760 บาท
  5. ค่าที่พัก โฮมสเตย์ตานงค์ ห้องปกติ จำนวน 1 คืน 700 บาท (รวมอาหารเช้า)
  6. ค่าอาหารและอื่นๆ : ตามอัธยาศัย

รวมค่าใช้จ่าย 3 วัน 2 คืน ทั้งหมด 6,780 บาท ตกคนละ 3,390 บาท


คิ้วหนา & ตากลม
Love is a journey | เพราะความรัก คือ การเดินทาง…

RELATED POSTS