หลวงพระบาง สปป.ลาว
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว คือ ประเทศที่เหมาะสำหรับคนที่อยากจะพาแฟนออกเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านด้วยกันเป็นครั้งแรก เพราะด้วยภาษาที่ไม่ต่างกันมากนัก จึงทำให้สามารถสื่อสารกันได้ไม่ยาก ผู้คนมีจิตใจดี มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะเมืองมรดกโลกอย่าง หลวงพระบาง เมืองที่กาลเวลาเดินไปอย่างช้าๆ เมืองที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้ออกไปค้นหา เมืองโรแมนติกที่เหมาะกับการพาแฟนไปเยือนดูสักครั้งในชีวิต
DAY 1
พวกเราเริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน AirAsia เที่ยวบินที่ FD 1030 เวลา 14.30 น. ถึงหลวงพระบางเวลา 16.00 น. ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง
![การเดินทาง หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-002.jpg)
ตอนนี้การเดินทางออกนอกประเทศของคนไทยไม่ต้องเขียนใบตม. แล้ว เขียนแค่ของประเทศปลายทางเท่านั้น ซึ่งพนักงานต้อนรับจะนำใบตม.ของประเทศลาวมาแจกให้ระหว่างอยู่บนเครื่อง
![การเดินทาง หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-003.jpg)
สนามบินหลวงพระบาง
ไม่นานพวกเราก็เดินทางมาถึงสนามบินหลวงพระบาง วันนี้อากาศดีมาก เครื่องลงจอดได้อย่างนุ่มนวล
![การเดินทาง หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-004.jpg)
สนามบินหลวงพระบางเป็นสนามบินที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก รายล้อมไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อน
![การเดินทาง หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-005.jpg)
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็หาซื้อซิมมือถือไว้ใช้เล่นอินเตอร์เน็ต ตรงประตูทางออกมาให้เลือกอยู่หลายยี่ห้อ ราคาพอๆกัน จึงเลือกร้านที่คนน้อย ยี่ห้อ Unitel มีให้เลือกหลาย Package ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ไป พวกเราไป 4 วัน จึงเลือกแบบ 4 วัน เน็ต 4 GB ราคา 200 บาท เป็นอินเตอร์เน็ตความเร็ว 4G สัญญาณและความเร็วโอเคมาก
![การเดินทาง หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-006.jpg)
จานนั้นก็แลกเงิน สามารถนำเงินไทยมาแลกได้เลย เรทอยู่ที่ 253.70 กีบ/ 1 บาท เรทดีกว่าข้างนอก (แถวในเมืองเรทอยู่ที่ 250 กีบ/ 1 บาท) พวกเราแลกไป 4,000 บาท ได้มาประมาณ 1,014,800 กีบ คนรับแลกใจดีปัดขึ้นให้เป็น 1,015,000 กีบ ได้ถือเงินหลักล้านเป็นครั้งแรกในชีวิต
![แลกเงิน หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-007.jpg)
คืนแรกพวกเราพักกันที่โรงแรม Sofitel Luang Prabang จึงเลือกใช้บริการรถรับส่งสนามบินของโรงแรม ราคาไป-กลับอยู่ที่ 25USD/คัน (850 บาท) ไปสองคนตกคนละ 425 บาท (รถตู้สนามบินไป-กลับ 400/คน)
![การเดินทาง หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-008.jpg)
เป็นรถ CR-V นั่งได้ 3 คน พอขึ้นรถพี่คนขับก็ยื่นผ้าเย็นมาให้เช็ดหน้าเช็ดตัว พร้อมน้ำเย็นๆ และขนมทานเล่นรองท้อง 2 อย่างวางอยู่ในกระติ๊บ บราวนี่อร่อยมาก หยิบกินจนอิ่มเลย
![การเดินทาง หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-009.jpg)
Sofitel Luang Prabang
ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็มาถึงโรงแรม
![Sofitel Luang Prabang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-152.jpg)
พนักงานวิ่งมาเปิดประตูให้และตีฆ้องต้อนรับ รู้สึกเหมือนเป็นเซเลบยังไงยังงั้น
![Sofitel Luang Prabang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-010.jpg)
พนักงานเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง และเสิร์ฟ Welcome Drink ผ้าเย็น ดอกไม้ไหว้พระ พร้อมกับพาไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ของโรงแรม พี่ๆพนักงานหลายท่านเป็นคนไทย คอยดูแลและช่วยเหลือพวกเราเป็นอย่างดี พี่ๆคนลาวก็เช่นกัน
![Sofitel Luang Prabang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-011.jpg)
ก่อนเข้าห้องพักมีพนักงานมาดักรอทำสปาเท้าให้เล็กน้อย ด้วยน้ำอุ่นและขัดเท้าด้วยมะขามเปียก
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-013.jpg)
ห้องพักในคืนนี้เป็นแบบ Garden Suite มีเตียงมุ้งขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางห้อง
![Sofitel Luang Prabang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-015.jpg)
พร้อมอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ 2 อ่าง อ่างแรกอยู่ภายในห้อง สามารถลงไปแช่ได้สองคนพร้อมกัน
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-016.jpg)
และอีกหนึ่งอ่างอยู่ด้านนอก ซึ่งเป็นสวนเล็กๆส่วนตัว
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-014.jpg)
ภายในห้องตกแต่งได้อย่างเรียบหรู พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
![Sofitel Luang Prabang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-017.jpg)
ถนนคนเดิน หรือ ตลาดมืด
พอตกเย็นพวกเราจึงออกไปหาข้าวเย็นทานกันแถวถนนคนเดิน (คนลาวเรียกว่า ตลาดมืด) โดยใช้รถรับส่งฟรีของโรงแรม ไปลงตรงปากทางถนนคนเดิน ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกอยู่หลายร้าน พวกเราเลือกทานที่ร้านดอกไม้ลาว เพราะบรรยากาศน่านั่งดี
![ถนนคนเดิน หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-019.jpg)
เมนูอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารจีน พวกเราสั่งมา 2 อย่างทานกับข้าวเปล่า รสชาติอร่อยถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน
![ถนนคนเดิน หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-018.jpg)
ทานอิ่มก็ออกมาเดินเล่นถนนคนเดิน มาเลือกซื้อผ้านุ่งเพื่อใส่ไปวัดในวันพรุ่งนี้ ตัวนี้ต่อแล้วเหลือ 300 บาท สามารถจ่ายเป็นเงินไทยได้ แม่ค้าชอบ และส่วนใหญ่จะบอกราคาเป็นบาททันทีเมื่อรู้ว่าเราเป็นคนไทย แต่ก็จ่ายเป็นกีบได้ ลองเปรียบเทียบกันดูอีกที จำง่ายๆคือ 5,000 กีบ = 20 บาท
![ถนนคนเดิน หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-020.jpg)
เดินเล่นและชอปปิ้งจนเหนื่อย จึงมาขึ้นรถที่หน้าโรงแรม 3 Nagas เพื่อกลับมาที่โรงแรม Sofitel แล้วนอนแช่น้ำอุ่นฟังเพลงอยู่ในห้อง ฟินมากๆ
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-021.jpg)
![Sofitel Luang Prabang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-022.jpg)
DAY 2
วันต่อมาพวกเราใช้เวลาในช่วงเช้าพักผ่อนอย่างเต็มที่อยู่ที่โรงแรม เริ่มด้วยอาหารเช้าที่ห้องอาหาร Governor’s Grill
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-148.jpg)
มีอาหารให้เลือกแบบ A La Carte พร้อมเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-023.jpg)
เมนู Signature ที่ต้องลองคือ ข้าวซอยลาว เส้นนุ่มๆ น้ำซุปรสชาติเข้มข้น และอีกเมนูที่อร่อยไม่แพ้กันก็คือ แหนมข้าว แผ่นแป้งบางๆห่อหมูสับทรงเครื่อง
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-025.jpg)
ทานเสร็จก็เดินเล่นสำรวจรอบๆโรงแรมเล็กน้อย ผังห้องพักจะเป็นลักษณะตัวยู ตรงกลางเป็นสวนและสระน้ำ ด้านนี้คืออาคารห้องพักแบบ Garden ภายนอกดูคลาสสิก ภายในตกแต่งได้อย่างเรียบหรู
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-026.jpg)
มีกระต่ายน้อยวิ่งเล่นไปมาอยู่ในสวนอย่างอิสระ น่ารักมากๆ
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-024.jpg)
มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่สีเขียวมรกต พร้อมเก้าอี้นอนอาบแดด
![Sofitel Luang Prabang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-151.jpg)
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-150.jpg)
![Sofitel Luang Prabang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-149.jpg)
เป็นโรงแรมที่เงียบสงบและบรรยากาศดีมากๆ เหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างแท้จริง
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-027.jpg)
3 Nagas
ช่วงบ่ายพวกเราย้ายไปนอนที่โรมแรม 3 Nagas ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือของ Sofitel อีก 2 คืน ตัวโรงแรมตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆอย่างวัดเชียงทอง พระราชวังหลวงพระบาง หรือพระธาตุพูสี
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-028.jpg)
ห้องที่พวกเราพักเป็นแบบ Deluxe ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีเตียงมุ้งตั้งอยู่ที่มุมของห้อง และมีพื้นที่นั่งเล่นอยู่ตรงกลางของห้อง
![3 Nagas](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-030.jpg)
เตียงนอนและหมอนนุ่มมาก รู้สึกเหมือนกำลังนอนอยู่บนกองนุ่น
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-031.jpg)
ห้องนี้คือห้องหมายเลข 12 ชื่อว่า Louis Delaporte French Explorer เป็นห้องหัวมุม มีหน้าต่างด้านข้าง 3 บาน ช่วยเพิ่มแสงสว่างในเวลากลางวัน ทำให้รู้สึกโล่งสบาย
![3 Nagas](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-029.jpg)
ห้องน้ำถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ และส้วม
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-032.jpg)
อ่างอาบน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก แช่ได้แค่คนเดียว มีฝักบัวอาบน้ำอยู่ด้านบน ครีมอาบน้ำหอมมากจนอยากจะขอเอากลับมาใช้ที่บ้าน
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-033.jpg)
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-034.jpg)
ตัวอาคารเป็นโครงสร้างปูนผสมไม้แบบดั้งเดิม ที่มีความคลาสสิก กลมกลืนไปกับบรรยากาศโดยรอบ
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-035.jpg)
ร้านส้มตำป้าติ๋ม
สำหรับครึ่งบ่ายของวันที่ 2 พวกเราตั้งใจเที่ยววัดที่ตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองเก่า ซึ่งแต่ละที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก โดยยืมจักรยานของโรงแรมมาเป็นยานพาหนะในการเดินทาง แต่ก่อนอื่นขอเติมพลังด้วยน้ำปลาร้าของร้านส้มตำป้าติ๋ม หน้าวัดหนองสิคูนเมือง (Wat Nong Sikhounmuang) ถนนคูนเสา (Kounxoua) ใกล้กับโรงแรม 3 Nagas
![ส้มตำหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-038.jpg)
มีเมนูให้เลือกทั้งหมด 8 อย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นของทอดหรือย่าง
![ส้มตำหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-036.jpg)
ไฮไลท์ของร้านนี้ก็คือ ส้มตำหลวงพระบาง ที่มีน้ำปลาร้ารสชาติเข้มข้น และเส้นมะละกอที่ฝานเป็นแผ่นบางกรอบ กินคู่กับข้าวเหนียวและซี่โครงแดดเดียวทอด แซ่บมากๆ ถึงขนาดต้องมาแวะซื้อไปกินที่สนามบินอีกรอบก่อนกลับ รวมแล้วมื้อนี้หมดไป 65,000 กีบ (260 บาท)
![ส้มตำหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-037.jpg)
พระราชวังหลวงพระบาง
พอหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนจึงกลับไปนอน เอ้ย ไม่ใช่!!! ไปเที่ยวต่อ สถานที่แรกคือ พระราชวังหลวงพระบาง ตั้งอยู่ตรงข้ามกับทางขึ้นพระธาตุพูสี เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร
![ประวัติหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-039.jpg)
โดยเปิดให้เข้าชม 2 ช่วงเวลาคือ เช้า 8.00 น. – 11.30 น. และบ่าย 13.30 น. – 16.00 น. ปิดขายบัตรเข้าชมแต่ละช่วงก่อนเวลาปิด 30 นาที ค่าธรรมเนียมการเข้าชม 30,000 กีบ/คน (120 บาท)
![พระราชวังหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-040.jpg)
เดิมพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2518 พระราชวังหลวงพระบางได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นหอพิพิธภัณฑ์ ด้านในจัดแสดงห้องฟังธรรม ของเจ้ามหาชีวิต ท้องพระโรงที่ประดับด้วยกระจกหลากสีบนพื้นหลังสีแดงสวยงามมาก ห้องพระบรรทม ฯลฯ พร้อมทั้งจัดแสดงของใช้ส่วนพระองค์ และของขวัญจากนานาประเทศ ซึ่งด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป จึงต้องมาดูด้วยตาตัวเองเท่านั้น
![ประวัติหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-042.jpg)
และบริเวณด้านหน้าของหอพิพิธภัณฑ์คือ หอพระบาง สถานที่ประดิษฐาน “พระบาง” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง หลวงพระบาง
![ประวัติหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-041.jpg)
วัดใหม่สุวรรณภูมาราม
สถานที่ต่อมาคือ วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆว่า “วัดใหม่” อยู่ใกล้กับพระราชวังหลวงพระบาง เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว และยังเคยเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบาง
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-043.jpg)
กำแพงพระระเบียงด้านหน้าทำเป็นลายรดน้ำปิดทองเล่าเรื่องรามายณะและพระเวสสันดรชาดกสีทองอร่าม ด้านในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องที่มีพระพักตร์ที่งดงาม วันที่พวกเราไปมีงานบุญเลยไม่ได้เข้าไปสักการะด้านใน เปิดให้เข้าชมเวลา 07.00 – 18.00 น. ค่าเข้าชม 10,000 กีบ/คน (40 บาท)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-044.jpg)
วัดเชียงทอง
วัดต่อมาถือว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเยือนเมือง หลวงพระบาง ที่ทุกคนต้องไม่พลาด นั่นก็คือ วัดเชียงทอง เปิดให้เข้าชมเวลา 06.00 – 17.30 น. ค่าเข้าชม 20,000 กีบ/คน (80 บาท)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-045.jpg)
วัดเชียงทอง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2102-2103 ในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ถือว่าเป็นตัวแทนของศิลปะสกุลช่างล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุด จนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว
![วัดเชียงทอง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-065.jpg)
สิมของวัดหลังไม่ใหญ่มากนัก (พระอุโบสถ ภาษาลาวเรียกว่า สิม) หลังคาสิมมีหลังคาแอ่นโค้ง ลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่สามชั้น ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทอง ซึ่งชาวลาวเรียกว่า ช่อฟ้า ทั้งหมด 17 ช่อ คือข้อสังเกตุว่าเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้าง ส่วนคนสามัญสร้างจะมีช่อฟ้า 1-7 ช่อเท่านั้น
![วัดเชียงทอง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-048.jpg)
นอกจากความโดดเด่นของหลังคาและช่อฟ้าแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สะดุดตาจนต้องหยุดมองก็คือความงดงามของลวดลายลงรักปิดทองหรือที่ชาวลาวเรียกว่า “พอกคำ” บนผนังรอบสิมทั้งด้านนอกและด้านใน ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและนิทานพื้นบ้าน
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-049.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-054.jpg)
บริเวณผนังด้านหลังของสิม ประดับด้วย “ดอกดวง” หรือกระจกสีรูป “ต้นทอง” ท่ามกลางสัตว์หลากหลายชนิด ที่โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นนกยูง 2 ตัวกำลังรำแพนหางอยู่ใต้ต้นทอง
![วัดเชียงทอง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-061.jpg)
หลวงพระบางในอดีตคือเมืองเชียงทองที่เต็มไปด้วยต้นทองเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริเวณวัดเชียงทองก็เคยมีต้นทองยักษ์ขนาดหลายคนโอบอยู่
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-060.jpg)
เมื่อเจ้าศรีสว่างวัฒนาทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเชียงทอง จึงได้ให้ช่างทำลวดลายประดับดอกดวงเป็นรูปต้นทองไว้ที่ด้านหลังสิม เพื่อระลึกถึงต้นทองยักษ์ในอดีต
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-058.jpg)
ภายในสิมประดิษฐานพระประธานซึ่งมีชื่อว่า “พระองค์หลวง”
![วัดเชียงทอง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-063.jpg)
ด้านในประดับด้วยลวดลายลงรักปิดทองงดงามมาก
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-064.jpg)
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจและโดดเด่นไม่แพ้กันก็คือวิหารหลังเล็กๆ 2 หลัง ที่อยู่ด้านหลังและด้านข้างของสิม ซึ่งประดับด้วยลวดลายดอกดวงบนผนังสีแดง บอกเล่าเรื่องราวนิทานพื้นบ้านชื่อดังของลาวเรื่อง “สีเสลียว เสียวสวาด” และภาพวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง
![วัดเชียงทอง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-067.jpg)
หลังแรกคือ หอพระม่าน สถานที่ประดิษฐาน “พระม่าน” หนึ่งในพระคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง ซึ่งจะเปิดเฉพาะช่วงวันสงกรานต์ เพื่ออัญเชิญพระม่านลงมาให้ประชาชนได้กราบไหว้และสรงน้ำพระ
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-059.jpg)
และอีกหนึ่งหลังคือ “หอพระไสยาสน์” หรือ “วิหารแดง” ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่งดงาม และสามารถขึ้นไปสักการะด้านบนได้
![วัดเชียงทอง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-062.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-055.jpg)
หลังจากสักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์ด้านในเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพความงดงามของผนังลวดลายดอกดวงสีสันสดใสกลับไปเป็นที่ระลึก
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-057.jpg)
และอีกหนึ่งจุดที่สะดุดตายามที่มีแสงแดดส่องลงมากระทบกับผนังสีเหลืองทองแกะสลักลวดลายที่สวยงาม นั้นก็คือ โรงเมี้ยนโกศ โรงเก็บราชรถที่เคยใช้ในการอัญเชิญพระโกศของพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
![วัดเชียงทอง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-046.jpg)
เมื่อเข้ามาด้านในก็จะพบกับราชรถแกะสลักไม้สีทองเหลืองอร่ามทั้งคันอยู่ตรงกลางห้อง โดยมีเศียรของพญานาค 5 เศียรยื่นออกมาจากด้านหน้าของราชรถดูน่าเกรงขาม
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-066.jpg)
ปิดท้ายบรรยากาศของวัดเชียงทองด้วยภาพของน้องลิงตัวน้อยที่หลงมาจากไหนไม่รู้ ไม่เห็นมีลิงตัวอื่นอยู่แถวนี้เลย มาได้ไงเนี่ย
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-047.jpg)
วัดสุวรรณคีรี
ระหว่างทางกลับโรงแรม สองฝั่งของถนนสักกะรินมีวัดน้อยใหญ่ที่ตั้งอยู่ติดๆกันอีกหลายวัดให้ได้แวะเข้าไปสักการะพระประธานในพระอุโบสถ วัดแรกอยู่ตรงข้ามกับวัดเชียงทอง คือ วัดสุวรรณคีรี
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-073.jpg)
มีสิมหลังเล็กๆ ศิลปะแบบเชียงขวาง อยู่ตรงกลางของวัด
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-071.jpg)
ช่วงที่แวะเข้าไปเย็นมากแล้ว มีพระและเณรกำลังทำวัดเย็นอยู่ จึงไม่ได้เข้าไปสักการะพระประธานที่ด้านใน
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-072.jpg)
วัดศรีบุญเรือง
วัดต่อมาคือ วัดศรีบุญเรือง
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-075.jpg)
สิมรูปทรงหลังคาแอ่นขนาดใหญ่ ศิลปะเชียงขวาง ที่มีสีหน้าลายนกยูงและลวดลายดอกรวงผึ้งอันอ่อนช้อย
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-074.jpg)
วัดศิริมงคลไซยาราม
วัดศิริมงคลไซยาราม อยู่ถัดจากวัดศรีบุญเรือง รั้วของวัดอยู่ติดกัน
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-076.jpg)
สิมที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานกันระหว่างศิลปะแบบหลวงพระบางและแบบเชียงขวาง ระเบียงโถงด้านหน้าเป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ทรวงทรงหลังคาเป็นแบบเชียงขวาง
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-077.jpg)
วัดแสนสุขาราม
และวัดสุดท้ายของวันนี้ คือ วัดแสนสุขาราม
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-068.jpg)
ตรงข้ามกับสิมมีวิหารที่สวยงาม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-069.jpg)
จบทริปไหว้พระครึ่งวันบ่ายเป็นที่เรียบร้อย วัดในเขตตัวเมืองเก่า หลวงพระบาง ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กัน บางวัดรั้วติดกันเลยก็มี จึงสามารถปั่นจักรยานหรือเดินเที่ยวชมได้อย่างสบายๆ ช่วงบ่ายอาจจะร้อนหน่อย แต่พอตกเย็นบรรยากาศดีมากๆ
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-070.jpg)
พวกเรากลับมาอาบน้ำแต่งตัว และทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งอยู่ด้านหน้าของห้องพัก
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-079.jpg)
ด้านหน้าของโรงแรมมีรถโบราณสีแดง ทรงคลาสสิกจอดอยู่ 1 คัน ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องแวะถ่ายรูป
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-080.jpg)
ห้องอาหารของโรงแรมแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง อยู่ตรงข้ามกัน ฝั่งล๊อบบี้จะเป็นแบบ Outdoor ใต้ต้นไม้
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-082.jpg)
และฝั่งเดียวกับรถสีแดงจะเป็นแบบ Indoor ภายในตึกสไตล์โคโลเนียล
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-078.jpg)
มีอาหารพื้นเมืองให้เลือกหลากหลายเมนู บางอย่างก็พอคุ้นเคย บางอย่างรสชาติแปลกใหม่ดี อย่างหมี่ก้วยพัน (เมี่ยงขนมจีนกับมะเขือยาวบด) ไส้อั่วหมู หรือแกงหน่อใส่ยะนาง (ซุปหน่อไม้)
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-083.jpg)
เมนูที่ตากลมชอบมากที่สุดก็คือ ไกแพนจึง สาหร่ายทอดคลุกงาจิ้มน้ำพริกเนื้อควาย
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-084.jpg)
ส่วนเราชอบปิงซีนควาย สเต็กเนื้อควายนุ่มๆจิ้มด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษ ทั้ง 2 อย่างนี้เป็นเมนูแนะนำที่ต้องมาลิ้มลองให้ได้
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-085.jpg)
ปิดท้ายด้วยของหวานขึ้นชื่ออย่าง หมากกล้วยทอด กล้วยชุบแป้งทอด กรอบนอกนุ่มใน จิ้มกับซอสช็อกโกแลตและไอศกรีมวนิลา
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-086.jpg)
ทานเสร็จก็ไปเดินเล่นถนนคนเดินกันอีกรอบ ไปกันทุกคืนเพราะอยู่ใกล้กับที่พัก
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-087.jpg)
ชอปปิ้งเสร็จก็กลับมาพักผ่อน เพื่อเก็บแรงเอาไว้ลุยต่อในวันพรุ่งนี้
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-088.jpg)
DAY 3
พวกเรามีแพลนจะไปเที่ยวน้ำตกตาดกวางสี และตาดแส้ ซึ่งอยู่นอกเมือง และกลับมาดูพระอาทิตย์ตกดินบนพระธาตุพูสี
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-090.jpg)
เมื่อวานตอนเย็นจึงไปจองรถมอเตอร์ไซด์เอาไว้แล้ว ที่ร้าน Galaxy Airticketing อยู่ตรงข้ามกับวัดแสนสุขาราม ใกล้กับที่พัก ในราคาวันละ 120,000 กีบ (480 บาท) รวมน้ำมันเต็มถัง คิดเวลา 24 ชม. เช่าเวลาไหนคืนเวลานั้น พร้อมหมวกกันน๊อค 2 ใบ ใช้แค่ Passport ในการเช่า
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-091.jpg)
ก่อนออกเดินทางขอเติมพลังกันด้วยอาหารเช้าของโรงแรม เมนูอาหารของ 3 Nagas มีหลายอย่างที่เหมือนกันกับที่ Sofitel ซึ่งอร่อยทุกอย่าง สั่งเลย!!!
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-089.jpg)
ด้านซ้ายมือคือ แหนมข้าว (Nam Khao) และด้านขวาคือ ชุดออมเล็ตสไตล์ลาว (Jeun Khai)
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-092.jpg)
เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายแรก นั่นก็คือ น้ำตกตาดกวางสี อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 30 กิโล ใช้เวลาเดินทางด้วยมอเตอร์ไซด์ประมาณ 50 นาที
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-093.jpg)
น้ำตกตาดกวางสี
ถนนสองเลน ขับง่าย ทางราบเรียบ 70% ขรุขระ 30% ทางโค้งและลาดชันมากๆแค่ 10% แนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาว กางกางขายาว ถุงมือ (ถ้ามี) แว่นตากันแดด ผ้าปิดจมูกกันฝุ่นและแดด จากนั้นค่อยไปเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆกางเกงขาสั้นที่ห้องน้ำข้างหลังจุดขายตั๋ว
![น้ำตกตาดกวางสี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-094.jpg)
ที่นี่เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 17.30 น. ค่าเข้าชม 20,000 กีบ/คน ตัวน้ำตกจะต้องเดินเท้าเข้าไปข้างในอีกประมาณ 300 เมตร ระหว่างทางจะผ่านศูนย์อนุรักษ์หมีควาย
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-095.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-097.jpg)
หมีควายที่ถูกทำร้ายหรือกำพร้าหลากหลายวัย จะถูกนำมาดูแลก่อนปล่อยคืนสู่ป่า สามารถบริจาคเงินหรืออุดหนุนของที่ระลึก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลเจ้าหมีเหล่านี้ได้ด้วยนะ
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-096.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-098.jpg)
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ใต้ร่มไม้ อากาศเย็นสบาย พื้นดินจะชื้นๆ จึงต้องระวังลื่น โดยเฉพาะคนหล่อ (หล่อลื่น ตึ่ง!)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-099.jpg)
น้ำตกมีทั้งหมด 4 ชั้น บางชั้นก็อนุญาตให้ลงไปเล่นน้ำได้ แต่บางชั้นก็ปิดเพื่อความปลอดภัย ทุกชั้นน้ำใสมาก ออกสีฟ้านิดๆเขียวหน่อยๆ
![น้ำตกตาดกวางสี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-100.jpg)
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ วิวของน้ำตกที่ความสูงประมาณ 70 เมตร ไหลลงมาเป็นช่อๆ อย่างสวยงาม
![น้ำตกตาดกวางสี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-101.jpg)
มีสะพานทอดยาวผ่านหน้าน้ำตก ให้เดินเข้าไปสัมผัสกับละอองน้ำที่ฟุ้งกระจายขึ้นมาได้อย่างใกล้ชิด
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-102.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-103.jpg)
สวยงามสมกับคำล่ำลือว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดใน หลวงพระบาง และสปป.ลาว
![น้ำตกตาดกวางสี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-104.jpg)
มื้อเที่ยงพวกเราฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารบริเวณปากทางเข้าน้ำตก ตรงข้ามกับซุ้มขายตั๋ว เป็นเมนูง่ายๆ อย่างข้าวผัดและหมูสามชั้นทอด หมูสามชั้นอร่อยมาก
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-105.jpg)
น้ำตกตาดแส้
จุดหมายต่อไปคือ น้ำตกตาดแส้ อยู่ห่างจากตาดกวางสีออกไปประมาณ 40 กิโล ต้องขับย้อนกลับเข้าไปในเมืองประมาณ 30 กิโล และขับออกไปทางทิศตะวันออกอีกประมาณ 10 กิโล ก็จะถึงท่าเรือน้ำคาน
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-116.jpg)
เพื่อนั่งต่อเข้าไปยังน้ำตก เพราะไม่มีถนนเข้าไป ค่าเรือ 10,000 กีบ/คน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-106.jpg)
ค่าเข้าน้ำตก 15,000 กีบ/คน สีของน้ำคล้ายๆกับที่ตาดกวางสี ด้านในเหมือนเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนลาวและนักท่องเที่ยว มีซุ้มของร้านอาหารตั้งอยู่ริมน้ำตก บรรยากาศต่างจากตาดกวางสีมาก
![น้ำตกตาดแส้](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-107.jpg)
![น้ำตกตาดแส้](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-115.jpg)
มีบริการขี่ช้างชมธรรมชาติ และเดินลงมาแช่ในน้ำตก
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-108.jpg)
ไฮไลท์ที่พวกเราดั้นด้นมาสัมผัสก็คือ การนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ท่ามกลางน้ำตกที่ไหลผ่านอยู่ด้านล่าง
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-110.jpg)
![น้ำตกตาดแส้](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-111.jpg)
ร้าน Mai Coffee เป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนน้ำตก ลักษณะเป็นเหมือนบ้านต้นไม้ที่มีระเบียงยืนออกมาเหนือน้ำ
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-113.jpg)
มีเมนูขนมและเครื่องดื่มให้เลือกหลายชนิดทั้งร้อนและเย็น ราคาปานกลาง รสชาติถือว่าโอเค
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-112.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-109.jpg)
อากาศเย็นสบาย มีเสียงน้ำไหลขับกล่อมตลอดเวลา จนเกือบเคลิมหลับไป
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-114.jpg)
พระธาตุพูสี
นั่งเล่นอยู่จนถึงสี่โมงก็กลับออกมา แล้วขับกลับเข้าตัวเมือง เพื่อขึ้นไปรอดูพระอาทิตย์ตกดินบนพระธาตุพูสี
![พระธาตุพูสี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-121.jpg)
พระธาตุพูสี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง อยู่บนยอดเขาที่มีความสูงประมาณ 150 เมตร เดินขึ้นไปได้เท่านั้น มีบันไดทั้งหมด 328 ขั้น บอกได้คำเดียวว่า โคตรเหนื่อย
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-118.jpg)
แต่ก็คุ้มค่ากับวิวด้านบนแบบ 360 องศา สามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบางได้ทั้งเมืองจากมุมสูง
![พระธาตุพูสี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-119.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-120.jpg)
![พระธาตุพูสี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-123.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-122.jpg)
เราขึ้นมาไม่ทันได้เห็นโฉมหน้าของพระอาทิตย์ก่อนที่จะลาลับขอบฟ้า แต่ก็ได้เห็นความสวยงามของแสงสุดท้ายที่พระอาทิตย์ทิ้งไว้ให้
![พระธาตุพูสี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-117.jpg)
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-124.jpg)
The Belle River Terrace
กลับมานอนพักขาด้วยการแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ และแต่งตัวออกไปทานอาหารเย็น
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-127.jpg)
มื้อนี้ตั้งใจจะมาดินเนอร์กันริมน้ำ จึงขับรถวนหาและเลือกร้านอยู่สักพัก ก็มาจบที่ร้าน The Belle River Terrace เป็นร้านอาหารที่มีระเบียงยืนออกไปจากฝั่ง บรรยากาศดีมากๆ
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-125.jpg)
พวกเราสั่งเมนูง่ายๆมา 2 อย่าง เป็นไก่ผัดเม็ดมะม่วงและแกงเขียวหวานไก่ อาหารรสชาติอร่อย ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณจานละ 20,000 – 60,000 กีบ แต่เมื่อเทียบกับบรรยากาศที่ได้รับก็ถือว่าไม่แพง
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-126.jpg)
ทานเสร็จก็ออกไปเดินเล่นถนนคนเดินอีกเป็นรอบที่สาม รอบนี้เป็นรอบของการเลือกซื้อของฝาก จากนั้นก็ออกไปขับรถเล่นรอบเมือง หลวงพระบาง เพราะน้ำมันที่เติมมาเพิ่มอีก 1 ถังเหลืออยู่เยอะ และกลับมานอนพักผ่อน
![ที่เที่ยว หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-129.jpg)
DAY 4
ตอนกลางคืนฝนตกหนักและตกมาจนถึงตอนเช้า พวกเราเลยไม่ได้ออกไปใส่บาตรตอนเช้าหน้าโรงแรม แต่พอฝนหยุดตกตอนสายๆ จึงออกไปเดินเล่นตลาดเช้า ผู้คนคึกคักมาก
![ตลาดเช้า หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-134.jpg)
ได้เจอสาหร่ายไก สาหร่ายน้ำจืดที่เอามาทำเมนู ไกแพนจึง ตัวเป็นๆ
![ตลาดเช้า หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-131.jpg)
ได้เจอวัตถุดิบแปลกๆ หลายอย่าง ตื่นตาตื่นใจมาก
![ตลาดเช้า หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-133.jpg)
![ตลาดเช้า หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-130.jpg)
![ตลาดเช้า หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-132.jpg)
![ตลาดเช้า หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-135.jpg)
บรรยากาศหลังฝนตก สดชื่นมากๆ อากาศอัดแน่นไปด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์
![ตลาดเช้า หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-136.jpg)
![ตลาดเช้า หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-137.jpg)
กลับมานอนต่ออีก 1 ตื่น แล้วออกมากินข้าวเช้าที่โรงแรมเกือบ 10 โมง
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-139.jpg)
ตากลมยังคงติดใจกับแหนมข้าว ส่วนเราขอลองเมนู Congee ข้าวต้มทรงเครื่องทานคู่กับหมูหยองฝอย
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-140.jpg)
ปิดท้ายด้วยของหวานอีกสองสามอย่าง
![ที่พัก หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-138.jpg)
Joma Bakery Cafe
ช่วงบ่ายหลังจากเช็คเอาออกจากที่พัก พวกเราฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วปั่นจักรยานมานั่งชิลกันที่ร้าน Joma Bakery Cafe คาเฟ่สุดคลาสสิกชื่อดังของเมืองหลวงพระบาง
![คาเฟ่ หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-144.jpg)
มีอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มหลายอย่างให้ได้ลิ้มลอง
![คาเฟ่ หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-141.jpg)
![คาเฟ่ หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-143.jpg)
![คาเฟ่ หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-142.jpg)
บลูเบอรี่ชีสเค้กอร่อยมากๆ ส่วนกาแฟก็รสชาติเข้มข้น
![คาเฟ่ หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-145.jpg)
![คาเฟ่ หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-146.jpg)
![คาเฟ่ หลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-147.jpg)
ก่อนเดินทางไปสนามบิน พวกเราแวะไปซื้อส้มตำหลวงพระบาง ร้านป้าติ๋ม ใส่ถุงไปกินที่สนามบินเป็นมื้อเย็น เพราะอดใจไม่ไหวจริงๆ จากนั้นรถของโรงแรมคันเดิมก็พามาส่งที่สนามบิน
![ส้มตำหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-153.jpg)
ขากลับเครื่องออกเวลา 16.45 น. เที่ยวบินที่ FD 1031 ถึงดอนเมืองประมาณ 18.00 น. เป็นอันจบทริปพาแฟนไปเยือนถิ่นมรดกโลก สัมผัสมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรม ณ หลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน ได้อย่างสมบูรณ์และประทับใจ
![สนามบินหลวงพระบาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2017/10/Luang-Prabang-2017-154.jpg)
สรุปรายละเอียดการเดินทาง ดังนี้
DAY 1
- ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน AirAsia มีวันละ 2 เที่ยวบิน ดังนี้
- เที่ยวไปเวลา 13.55 / 14.30 น. (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที)
- เที่ยวกลับเวลา 15.50 / 16.45 น. (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที)
- เช็คอินเข้าที่พัก Sofitel Luang Prabang (1 คืน)
- เดินเล่นถนนคนเดิน (ตลาดมืด)
DAY 2
- ย้ายมาพักที่ 3 Nagas (Mgallery by Sofitel) (2 คืน)
- มื้อกลางวัน ส้มตำหลวงพระบาง ร้านป้าติ๋ม
- พระราชวังหลวงพระบาง (หอพิพิธภัณฑ์)
- เปิดให้เข้าชม 2 ช่วงเวลาคือ เช้า 8.00 น. – 11.30 น. และบ่าย 13.30 น. – 16.00 น.
- ปิดขายบัตรเข้าชมแต่ละช่วงก่อนเวลาปิด 30 นาที
- วัดใหม่สุวรรณภูมาราม (เปิดเวลา 07.00 – 18.00 น.)
- วัดเชียงทอง (เปิดเวลา 06.00 – 17.30 น.)
- วัดสุวรรณคีรี / วัดศรีบุญเรือง / วัดศิริมงคลไซยาราม / วัดแสนสุขาราม
- มื้อเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม 3 Nagas
- เดินเล่นถนนคนเดิน (ตลาดมืด)
DAY 3
- น้ำตกตาดกวางสี (เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 17.30 น.)
- น้ำตกตาดแส้ (เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 17.30 น.)
- ร้าน Mai Coffee คาเฟ่ท่ามกลางน้ำตก
- ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินบนพระธาตุพูสี (เปิดเวลา 06.00 – 18.00 น.)
- ดินเนอร์ริมน้ำที่ร้าน The Belle River Terrace
- เดินเล่นถนนคนเดิน และขับรถเล่นรอบเมือง
DAY 4
- ตักบาตรข้าวเหนียว (แนะนำเพิ่มเติม)
- เดินเล่นตลาดเช้า
- นั่งชิลที่ร้าน Joma Bakery Cafe
- แวะซื้อส้มตำหลวงพระบาง ร้านป้าติ๋ม
- เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ช่วงเวลาเดินทาง : 13 – 16 ตุลาคม 2560
สรุปรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้
- การแลกเงิน
- แนะนำให้แลกที่สนามบินจะได้เรทดีที่สุด 253.70กีบ/ 1 บาท
- วิธีแปลงเงินกีบเป็นเงินบาทอย่างง่ายๆ คือ 5,000 กีบ = 20 บาท
- ซิมมือถือ
- เราเลือกยี่ห้อ Unitel มีให้เลือกหลาย Package ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ไป พวกเราไป 4 วัน จึงเลือกแบบ 4 วัน
- เน็ต 4 GB ราคา 200 บาท เป็นอินเตอร์เน็ตความเร็ว 4G สัญญาณและความเร็วโอเคมาก
- ส่วนใหญ่โรงแรมมีไวไฟฟรีให้ใช้อยู่แล้ว
- ค่าที่พัก (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล)
- Sofitel Luang Prabang ห้อง Garden Suite 1 คืน : 200 USD/คืน (6,500 บาท)
- Facebook : Sofitel Luang Prabang
- Website : Sofitel-luangprabang.com
- 3 Nagas (Mgallery by Sofitel) ห้อง Deluxe 2 คืน : 125 USD/คืน (4,000 บาท)
- Facebook : 3 Nagas
- Website : 3-nagas.com
- Sofitel Luang Prabang ห้อง Garden Suite 1 คืน : 200 USD/คืน (6,500 บาท)
- ค่าเดินทาง
- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : 3,800 บาท/คน โดยจองผ่าน Traveloka (เว็บเอเจนซี่จองที่พักและตั๋วเครื่องบิน) Website : Traveloka.com
- ค่ารถรับส่งสนามบินของโรงแรม Sofitel (Round trip) : 25USD (850 บาท)
- ค่ารถมอเตอร์ไซด์ร้าน Galaxy Airticketing ราคาวันละ 120,000 กีบ (480 บาท) รวมน้ำมันเต็มถัง คิดเวลา 24 ชม. เช่าเวลาไหนคืนเวลานั้น พร้อมหมวกกันน๊อค 2 ใบ ใช้แค่ Passport ในการเช่า
- ค่านำ้มัน 10,000 กีบ/ลิตร มีแบบเดียว
- ค่าเข้าชมสถานที่
- พระราชวังหลวงพระบาง (หอพิพิธภัณฑ์) : 30,000 กีบ/คน (120 บาท)
- วัดใหม่สุวรรณภูมาราม : 10,000 กีบ/คน (40 บาท)
- วัดเชียงทอง : 20,000 กีบ/คน (80 บาท)
- น้ำตกตาดกวางสี : 20,000 กีบ/คน (80 บาท)
- น้ำตกตาดแส้ : ค่าเรือเที่ยวละ 10,000 กีบ/คน (40 บาท) ค่าเข้า 15,000 กีบ/คน (60 บาท)
- พระธาตุพูสี : 20,000 กีบ/คน (80 บาท)
- ค่าอาหารและอื่นๆ : ตามอัธยาศัย