จังหวัดแรกในภาคเหนือที่คุณจะนึกถึงเมื่ออยากไปสัมผัสกับธรรมชาติและอากาศหนาวคือจังหวัดไหน? จังหวัดแรกของพวกเราคือ “เชียงใหม่” จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ เที่ยวเท่าไหร่ก็เที่ยวไม่ครบและเที่ยวได้ไม่มีเบื่อ จนกลายเป็นทริปประจำที่ต้องมาเยือนเชียงใหม่ให้ได้ทุกปี โดยครั้งนี้พวกเรามีเวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน กับจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจสองแห่ง นั่นก็คือ ดอยอ่างขาง และ ม่อนแจ่ม ส่วนจะพาแฟนไปแอ่วที่ไหนได้บ้างนั้น ตามมาๆ
DAY 1
วันแรกที่เราไปถึงมีสายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ ประกอบกับอากาศที่หนาวเย็น ทำให้รู้สึกหนาวแบบชื้นๆ แต่ก็รู้สึกดีต่อใจ
![ดอยอ่างขาง การเดินทาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-007.jpg)
การเดินทางในครั้งนี้พวกเราเช่ารถยนต์เอาไว้ล่วงหน้า แต่เช่ากระชั้นชิดไปหน่อยเลยเหลือแค่รถกระบะคันนี้ ที่ช่วยกันแดด กันฝน และกันหนาวให้กับพวกเราตลอดทั้งทริป
![ดอยอ่างขาง การเดินทาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-012.jpg)
ร้านเสน่ห์ดอยหลวง
เมื่อพร้อมแล้วจึงเริ่มออกเดินทาง โดยมีจุดหมายแรกคือการแวะทานข้าวกลางวันที่ร้านเสน่ห์ดอยหลวง ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมถนนเส้นเลี่ยงเมือง อ.เชียงดาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม 30 นาที
![ร้านเสน่ห์ดอยหลวง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-016.jpg)
บรรยากาศของร้านตกแต่งแบบล้านนา หากมาร้านนี้ในช่วงที่ท้องฟ้าเปิดจะสามารถเห็นวิวของดอยหลวงเชียงดาวได้ด้วยนะ
![ร้านเสน่ห์ดอยหลวง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-017.jpg)
![ร้านเสน่ห์ดอยหลวง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-022.jpg)
ทานเสร็จก็ออกเดินทางต่อท่ามกลางสายฝนที่โปร่ยปราย จากอ.เชียงดาวสามารถเดินทางต่อไปยัง ดอยอ่างขาง ได้ 2 เส้นทาง โดยเส้นทางแรก (เส้นสีเทา) คือ อ.เชียงดาว – อ.ฝาง ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร มีเส้นทางขึ้นเขาช่วงสุดท้ายประมาณ 5 กิโลเมตรที่ค่อนข้างชันถึงชันมาก ไม่เหมาะกับคนที่ขับรถไม่แข็งและไม่ชำนาญเส้นทาง โดยเฉพาะใช้ช่วงที่ฝนตกหรือมีหมอกหนา
![ดอยอ่างขาง การเดินทาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-002.jpg)
เส้นทางที่ 2 (เส้นสีฟ้า) คือ อ.เชียงดาว – บ้านอรุโณทัย ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร เส้นทางนี้ไม่ชันแต่โค้งค่อนข้างเยอะ สำหรับเราเลือกเส้นทางที่สองเพราะเส้นทางนี้ขับง่ายและวิวสองข้างทางก็สวยมาก
![ดอยอ่างขาง การเดินทาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-032.jpg)
ประมาณช่วง 20 กิโลเมตรสุดท้ายจะเป็นทางขึ้นเขา ซึ่งวันนั้นหมอกลงหนามาก ยิ่งขึ้นสูงหมอกก็ยิ่งหนา บางช่วงสามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้แค่ระยะประมาณ 3 เมตร ค่อนข้างอันตรายมาก ใช้ความเร็วได้แค่ประมาณ 20-40 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น
![ดอยอ่างขาง การเดินทาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-304.jpg)
รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง
ปกติจากเชียงดาวมาอ่างขางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่วันนั้นเราใช้ไป 2 ชั่วโมงครึ่ง สุดท้ายก็มาถึงที่พักได้อย่างปลอดภัย โดยคืนแรกเราพักกันที่ “รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง”
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-036.jpg)
หลังจากเช็คอินเข้าที่พักและเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราขับรถออกไปหาข้าวเย็นกินแถวหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขางซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก โดยเลือกร้านถิง ถิง โภชนา ที่มีเมนูแนะนำอย่างขาหมู หมั่นโถวยูนนาน
![ถิง ถิง โภชนา](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-061.jpg)
และเห็ดหอมอบซีอิ้ว
![ถิง ถิง โภชนา](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-064.jpg)
จิบชาร้อนๆ
![ถิง ถิง โภชนา](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-060.jpg)
กินเสร็จก็ออกมาเดินย่อยดูของอีกนิดหน่อย ร้านค้าส่วนใหญ่ก็เริ่มจะปิด เพราะคนไม่ค่อยเยอะและอากาศหนาว
![ถิง ถิง โภชนา](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-069.jpg)
นี่คือห้องพักของพวกเราในคืนนี้ ห้องกว้างมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พื้นปูด้วยพรม (ยกเว้นบริเวณหน้าห้องน้ำ)
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-040.jpg)
และไฮไลด์ที่สำคัญที่ทำให้พวกเราเลือกพักที่นี่ ก็คือ เจ้าเตียงอุ่นๆ ปรับระดับอุณหภูมิได้ นอนอุ่นหลับสบายตลอดทั้งคืน จนไม่อยากจะลุกออกจากเตียงไปไหน เหมาะกับคนขี้หนาวอย่างพวกเราสองคนมาก
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-050.jpg)
ส่วนห้องน้ำเป็นที่ที่ไม่ค่อยอยากจะมาสักเท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะมันเย็นมากกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) อุ่นอยู่แค่สองอย่างคือ เครื่องทำน้ำอุ่นกับไดร์เป่าผม นอกนั้นเย็นหมด แม้แต่ฝาชักโครกที่เย็นจนนั่งไม่ได้ต้องยองๆฉี่ แต่ดีที่โรงแรมมีรองเท้าแตะแบบผ้าให้ใส่เดินไปมาในห้องได้ค่อยอุ่นเท้าหน่อย
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-049.jpg)
DAY 2
เช้าวันต่อมาตั้งใจว่าจะไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลหมอกที่จุดชมวิวม่อนสน แต่พอไปถึงบรรยากาศด้านบนกลับเต็มไปด้วยหมอก มองไม่เห็นพระอาทิตย์แม้แต่น้อย ได้แต่แหวกว่ายไปมาอยู่ในสายหมอก แต่ก็สวยไปอีกแบบ
![จุดชมวิวม่อนสน](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-080.jpg)
นั่งรอพระอาทิตย์อยู่เกือบชั่วโมง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าหมอกจะสงบ เลยกลับมากินอาหารเช้าที่โรงแรม
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-096.jpg)
ห้องอาหารจะอยู่ด้านข้างของ Lobby มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-097.jpg)
ตอนแรกพวกเรานั่งด้านนอก เพราะบรรยากาศดีและวิวสวย แต่สู้กับละอองหมอกไม่ไหวเลยย้ายไปนั่งข้างในแทน
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-103.jpg)
อาหารมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบมาตรฐานโรงแรมทั่วไป แต่ที่แตกต่างน่าจะเป็นพวกผักและผลไม้สดๆที่นำมาจากโครงการหลวง กินแล้วรู้สึกได้ถึงความสด โดยเฉพาะเมนูกระหล่ำปลีผัดน้ำปลาที่สดและกรอบมาก
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-102.jpg)
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-105.jpg)
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-104.jpg)
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-106.jpg)
อีกอย่างที่ชอบคือขนมปังปิ้งที่มีแยมรสชาติต่างๆให้เลือกเยอะมาก อย่างสตรอเบอรี่ ลำใย ลิ้นจี่ กีวี่ หรือลูกพีช ชอบที่สุดคือลำใย
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-110.jpg)
หลังจากกินเสร็จพวกเราออกไปเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆโรงแรม มีต้นดอกซากุระกำลังออกดอกเบ่งบานอวดความงามอยู่หลายต้นแถวหน้าห้องพัก
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-116.jpg)
ละอองหมอกยามเช้าค่อนข้างหนา ดอกซากุระเลยเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ มีนกตัวเล็กๆบินมากินน้ำหวานกันอย่างคึกคัก
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-117.jpg)
เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เช็คเอาท์ แล้วออกเดินทางต่อไปยังไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล
![ดอยอ่างขาง ที่พัก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-132.jpg)
ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล
ขับรถฝ่าสายหมอกมาเรื่อยๆ ไม่นานก็มาถึงไร่สตรอเบอรี่ รูปนี้ถ่ายจากวิวด้านหลังลานจอดรถ
![ดอยอ่างขาง ที่เที่ยว](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-138.jpg)
สายหมอกเริ่มจางลงจนสามารถมองเห็นแปลงสตรอเบอรี่ ไปถ่ายรูปเล่นกันเถอะ
![ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-142.jpg)
![ดอยอ่างขาง ที่เที่ยว](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-141.jpg)
ที่นี่ชาวบ้านอนุญาตให้สามารถลงมาถ่ายรูปเล่นในแปลงสตรอเบอรี่ได้ประมาณ 5 ชั้นจนถึงเขตรั้วที่ชาวบ้านกันเอาไว้
![ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-149.jpg)
![ดอยอ่างขาง ที่เที่ยว](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-147.jpg)
![ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-151.jpg)
![ดอยอ่างขาง ที่เที่ยว](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-154.jpg)
และห้ามแอบเก็บสตรอเบอรี่ก่อนได้รับอนุญาต แต่ก็ไม่มีให้เก็บหรอก เพราะชาวบ้านเก็บไปส่งให้โครงการหลวงหมดแล้วตั้งแต่เช้ามืด จะเหลือก็แต่ลูกเล็กๆที่ยังไม่โตเต็มที่หรือดอกของมัน
![ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-150.jpg)
![ดอยอ่างขาง ที่เที่ยว](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-158.jpg)
และที่สำคัญต้องเดินอย่างระมัดระวัง เพราะช่องทางเดินแคบและลื่นมาก เดี๋ยวจะล้มไปทับแปลงปลูกของชาวบ้านเสียหายเอาได้
![ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-163.jpg)
ถ่ายรูปเล่นอยู่สักพัก ลมก็พัดสายหมอกกลุ่มใหญ่มาปกคลุมแปลงสตรอเบอรี่อีกครั้งจนมองอะไรไม่เห็น พวกเราจึงขอเข้ามาหลบในบ้านของชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ และอุดหนุนสินค้าหัตธกรรมฝีมือของชาวบ้านกลับไปเป็นของที่ระลึก
![ดอยอ่างขาง ที่เที่ยว](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-140.jpg)
ตามทางเดินเต็มไปด้วยเจ้าไส้เดือนตัวใหญ่ยักษ์ กระดึบไปมา ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะไปไหนกันแน่ เดี๋ยวก็เดินหน้า เดี๋ยวก็ถอยหลัง บางตัวโคตรโชคร้ายโดนรถทับตายคาที่ น่าสงสารสุดๆ
![ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-172.jpg)
รูปน้องล่อสองตัวนี้ตากลมเป็นคนถ่ายระหว่างทางกลับจากไร่สตรอเบอรี่ เปิดกระจกออกมากดถ่ายแค่หนึ่งทีล่อก็วิ่งหนีเข้าป่าไป เธอเลยรู้สึกภูมิใจกับภาพนี้มากเป็นพิเศษที่สามารถถ่ายได้ทันก่อนที่มันจะวิ่งหนีไป
![ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-175.jpg)
หมู่บ้านขอบด้ง
จากไร่สตรอเบอรี่ขับย้อนกลับมาทางเดิมเล็กน้อย แล้วเลี้ยวเข้าไปยังหมู่บ้านขอบด้ง ขับไปจอดที่โรงเรียนหน้าร้านเส้นศิลป์ ร้านขายของฝากและของที่ระลึก งานหัตธกรรมชนเผ่าฝีมือนักเรียน เพื่อนำรายได้ไปเป็นทุนการศึกษา
![หมู่บ้านขอบด้ง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-183.jpg)
สินค้าส่วนใหญ่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติอย่างหญ้าอิบูแค หญ้าศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชนเผ่าลาหู่นะที่ช่วยคุ้มครองจากภัยอันตราย โดยนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เช่น กำไลข้อมือ สร้อยคอ ปิ่นปักผม หรือพวงกุญแจ
![หมู่บ้านขอบด้ง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-182.jpg)
หมู่บ้านขอบด้งเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก แต่วันนี้หมอกมาเยอะไปหน่อยเลยมองไม่ค่อยเห็นอะไรสักเท่าไหร่
![หมู่บ้านขอบด้ง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-194.jpg)
อากาศก็หนาว กลับบ้านไปนอนดีกว่า น้องหมาได้กล่าวไว้
![หมู่บ้านขอบด้ง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-196.jpg)
![หมู่บ้านขอบด้ง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-197.jpg)
ไร่ชา 2000
จากหมู่บ้านขอบด้งก็มาต่อกันที่ไร่ชา 2000
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-211.jpg)
ไร่ชา 2000 เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปทะเลหมอกบางๆลอยตัวเหนือแปลงปลูกชา แต่วันนี้หมอกลอยไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-228.jpg)
ที่นี่บรรยากาศดี อากาศบริสุทธิ์ วิวก็สวย แต่ที่จอดรถน้อยไปหน่อย แถมเป็นทางตัน ต้องขับย้อนกลับทางเดิม และถนนค่อนข้างแคบ ถ้าเป็นช่วงเทศกาลน่าจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ แนะนำให้จอดที่โรงคัดแยกชา แล้วเดินลงมาจะดีที่สุด
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-210.jpg)
จากไร่ชาพวกเราขับกลับมาหาข้าวกินแถวหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง และไปจบที่ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-231.jpg)
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ทานเสร็จก็ขับรถเข้าไปข้างในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-232.jpg)
แวะจุดแรกแถวๆลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ชาวบ้านพาน้องล่อมาให้นักท่องเที่ยวขี่ชมบรรยากาศ แถมด้านข้างมีสวนบ๊วยด้วยนะ
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-238.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-241.jpg)
จุดต่อมาคือ สวน 80 หรือ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สวนที่รวบรวมและจัดแสดงพันธุ์ไม้และดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ให้ได้เยี่ยมชมและถ่ายรูปกันอย่างจุใจ
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-252.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-254.jpg)
โดยเฉพาะต้นซากุระจากประเทศญี่ปุ่นและไต้หวันที่กำลังออกดอกเบ่งบานมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมและจะบานไปจนถึงเดือนมกราคม
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-255.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-258.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-259.jpg)
ตรงข้ามกับสวน 80 มีร้านค้าโครงการหลวง ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายของฝาก ของที่ระลึก และผลผลิตที่รับมาจากชาวบ้าน
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-247.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-244.jpg)
สตรอเบอรี่สดๆจากไร่ของชาวบ้านบางส่วนก็ถูกส่งมาขายที่นี่
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-245.jpg)
“กาแฟสักแก้ว โปสการ์ดสักใบ ถึงใครสักคน” คือสโลแกนของร้านนี้
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-248.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-243.jpg)
จุดต่อมาคือแปลงรวบรวมพันธุ์บ๊วย
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-264.jpg)
ช่วงระหว่างเดือน ธ.ค – ม.ค เป็นช่วงที่บ๊วยกำลังออกดอกเหมาะแก่การมาถ่ายรูป
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-280.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-268.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-281.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-277.jpg)
และจุดสุดท้ายสำหรับสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง คือ แปลงปลูกกระหล่ำประดับ
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-290.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-289.jpg)
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-288.jpg)
แปลงกุหลาบ
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-295.jpg)
และร้านขายของฝากที่อยู่ติดกัน
![ดอยอ่างขาง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-294.jpg)
จากนั้นพวกเราก็รีบออกเดินทางต่อ เพื่อย้อนกลับไปนอนค้างที่ม่อนแจ่ม ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 162 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0001.jpg)
ม้ง ฮิลไทร์ป ลอจ์ด รีสอร์ท (Hmong Hilltribe Lodge)
โดยคืนนี้พวกเรามาพักกันที่ ม้ง ฮิลไทร์ป ลอจ์ด รีสอร์ท (Hmong Hilltribe Lodge) ซึ่งอยู่ใกล้กับม่อนแจ่ม จุดท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0006.jpg)
ช่วงประมาณ 2 ทุ่มของทุกวัน หลังอิ่มหน่ำจากอาหารเย็น ทางโรงแรมได้มีการจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม การละเล่น และการจำลองวิถีชีวิตของชนเผ่าม้ง ชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆที่พัก เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0004.jpg)
ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลด์ที่สำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ ขอขอบคุณรูปภาพจาก : www.hmonghilltribeLodge.com
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0005.jpg)
สำหรับห้องพักทั้งหมดของที่นี่จะออกแบบสไตล์หมู่บ้านม้งผสมลอฟท์ ตกแต่งภายนอกด้วยวัสดุธรรมชาติ อย่างไม้ไผ่สานบุทับฝาผนังปูน หรือหลังคาที่ทำจากหญ้าแฝก และใช้แสงไฟโทนส้มให้ความรู้สึกอบอุ่น
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0010.jpg)
ด้านในจะมีโถงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง และแบ่งออกเป็นอีก 4 ห้องย่อยๆ หลังที่พวกเราพักจะมีห้องแบบ Superior 3 ห้อง และแบบ Deluxe 1 ห้อง
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0011.jpg)
ห้องที่พวกเราพักเป็นแบบ Superior มีเตียงนอน 2 เตียง ตกแต่งด้วยผ้าคลุมเตียงและผ้าม่านทอจากฝ้ายลวดลายม้ง
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0012.jpg)
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ได้แก่ พัดลม, เครื่องทำความร้อน, อุปกรณ์ชงชา-กาแฟ, หม้อต้มน้ำร้อน และตู้เย็น
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0013.jpg)
แต่จะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เพราะที่นี่อากาศจะหนาวเย็นตลอดทั้งปี และไม่มีทีวีกับไวไฟ เพราะอยากให้ผู้เข้าพักได้อยู่กับธรรมชาติในบรรยากาศที่เงียบสงบอย่างเต็มที สำหรับไวไฟจะมีที่บริเวณห้องอาหาร
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0014.jpg)
มีผ้าห่มเพิ่มให้พิเศษอีกสองผืน ซึ่งได้ใช้งานจริงๆเพราะอากาศหนาวมาก ห่มสองผืนอุ่นสบายกำลังดี
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0017.jpg)
ส่วนโซนห้องน้ำ มีการแยกห้องอาบน้ำ อ่างล้างหน้า และห้องส้วมออกจากกันอย่างชัดเจน
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0020.jpg)
ห้องอาบน้ำเป็นฝักบัวแบบน้ำฝน พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น และมีเจลอาบน้ำและแชมพูจัดเตรียมไว้ให้
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0021.jpg)
ตรงข้ามกับห้องอาบน้ำเป็นห้องส้วม
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0022.jpg)
DAY 3
เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาพร้อมกับอากาศที่สดชื่น เย็นสบายกำลังดี ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจี
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0023.jpg)
เมื่อมีแสงสว่างจึงทำให้รู้ว่าพวกเรากำลังพักอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่มีสายหมอกบางๆพัดผ่าน และรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0028.jpg)
สำหรับโซนที่พวกเราพักจะมีบ้านหลังใหญ่ทั้งหมด 3 หลัง ตรงกลางมีลานกว้าง พร้อมที่นั่งและกองไฟ ให้ออกมานั่งผิงไฟ นั่งเล่นพูดคุยกันได้อย่างอบอุ่น
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0030.jpg)
อากาศและบรรยากาศดีดีแบบนี้ เหมาะแก่การตื่นเช้าออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธ์เป็นอย่างมาก ออกไปสำรวจที่พักกัน ตามมาๆ
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0034.jpg)
ห้องอาหารของที่นี่จะมีทั้งหมด 2 โซน โดยโซนแรกจะเป็นแบบ Indoor สำหรับอาหารเช้า หรืออาหารเย็นในวันที่ฝกตกหรือหมอกลงจัด
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0072.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0074.jpg)
โซนที่สองจะเป็นแบบ Outdoor ใกล้กับสระว่ายน้ำและบาร์ มีวิวด้านข้างเป็นแปลงนาขั้นบันไดและทิวเขา สำหรับอาหารเย็น
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0043.jpg)
มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมแปลงนาขั้นบันไดและภูเขา
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0035.jpg)
มีเตียงไม้ให้สามารถมานั่งชิวชมวิวได้อย่างเพลิดเพลินจนไม่อยากจะลุกออกไปไหน
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0111.jpg)
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0109.jpg)
ถ้าไม่ติดว่าอากาศหนาวก็ว่าจะลงไปว่ายน้ำเล่นสักหน่อย
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0105.jpg)
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0116.jpg)
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0067.jpg)
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0039.jpg)
ถัดจากสระว่ายน้ำจะเป็นโซนห้องพักแบบ Standard ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6-7 หลัง แต่ละหลังมีห้องพักด้านใน 4 ห้อง
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0044.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0046.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0075.jpg)
พอดีบ้านหลังที่อยู่ริมสุดติดกับแปลงนาขั้นบันไดว่าง เราเลยขออนุญาตพนักงานเข้าไปสำรวจด้านใน เพื่อเอามาฝากท่านผู้ชมสักหน่อย
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0059.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0077.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0078.jpg)
ทุกห้องจะมีระเบียงส่วนตัวยื่นออกมา และมีเก้าอี้ไม้ไผ่ให้นั่งเล่น
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0052.jpg)
ตรงนี้เป็นประตูทางเข้าหลักของบ้าน
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0051.jpg)
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะพบกับโถงขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่น ตรงกลางมีกองไฟและช่องระบายอากาศอยู่ด้านบน
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0053.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0054.jpg)
เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการพื้นที่สังสรรค์ส่วนตัว
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0056.jpg)
การตกแต่งภายในห้องจะเหมือนกับห้องแบบ Superior และ Deluxe แต่ขนาดของห้องจะเล็กกว่า
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0080.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0081.jpg)
โคมไฟใส่หมวกม้งด้วยนะ น่ารักดี
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0093.jpg)
เราชอบห้องนี้ เพราะตรงหัวเตียงมีหน้าต่างที่สามารถมองออกไปเห็นวิวภูเขาและแปลงนาขั้นบันได
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0082.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0083.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0058.jpg)
สิ่งอำนวยความสะดวกมีเหมือนกับห้องแบบอื่นๆ
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0084.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0092.jpg)
ห้องน้ำแยกพื้นที่อ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำ และห้องส้วมอย่างชัดเจน แต่พื้นที่จะเล็กกว่าห้องแบบอื่นๆ
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0087.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0089.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0090.jpg)
เดินเล่นสักพักเริ่มหิว เลยมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0061.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0065.jpg)
เมนูที่เราชอบที่สุดก็คือ ข้าวต้มไก่ในหม้อดินเผา อุ่นร้อนๆ น้ำซุปรสชาติเข้มข้น
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0063.jpg)
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0066.jpg)
ทานอาหารเสร็จก็กลับมาเก็บของเตรียมเช็คเอาท์ และขอแวะเข้าไปสำรวจห้องแบบ Deluxe ที่อยู่ติดกันกับห้องของพวกเรา
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0094.jpg)
ห้องกว้างและอลังการมาก ภายในห้องพักเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ 1 เตียง
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0095.jpg)
ตกแต่งสไตล์ม้งเหมือนกับห้องแบบอื่นๆ
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0096.jpg)
มีเตียงเล็กๆ และระเบียงด้านนอกให้นั่งเล่น
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0097.jpg)
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0099.jpg)
มีสิ่งอำนวยความครบครัน (ยกเว้นทีวี ไวไฟ และเครื่องปรับอากาศ)
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0098.jpg)
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0103.jpg)
ห้องน้ำกว้างและแยกส่วนใช้สอยอย่างชัดเจน
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0101.jpg)
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0102.jpg)
พวกเราเห็นตรงกันว่าชอบที่นี่มาก เพราะด้วยบรรยากาศของรีสอร์ทที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ การตกแต่งที่อบอุ่น พนักงานเป็นกันเอง และที่สำคัญคือเงียบสงบเป็นส่วนตัวมากๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนและตัดขาดจากโลกภายนอกที่แสนวุ่นวายได้เป็นอย่างดี
![](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0123.jpg)
หลังจากเก็บของและเช็คเอาท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราจึงออกเดินทางต่อไปยังม่อนตะวันและม่อนแจ่ม ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร
![Hmong Hilltribe Lodge](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0125.jpg)
ม่อนตะวัน
ขับรถขึ้นมาชมวิวบนม่อนตะวันเป็นจุดแรก ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายโมง แต่หมอกยังเยอะอยู่เลย บรรยากาศดีมากๆ
![ม่อนตะวัน](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0127.jpg)
![ม่อนตะวัน](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0128.jpg)
![ม่อนตะวัน](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0129.jpg)
![ม่อนตะวัน](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0131.jpg)
![ม่อนตะวัน](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0134.jpg)
ม่อนแจ่ม
ถ่ายรูปเพลินจนตากลมเริ่มหิว เลยพาไปกินข้าวกลางวันที่ม่อนแจ่ม โดยจอดรถไว้ด้านล่างแล้วเดินขึ้นมาอีกประมาณ 500 เมตร
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0135.jpg)
บริเวณด้านบนม่อนแจ่มจะมีร้านอาหารของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยคอยให้บริการนักท่องเที่ยว โดยมีที่นั่งทานอาหารให้เลือกสองแบบ แบบแรกจะเป็นโต๊ะยาวเรียงติดกันอยู่ด้านบน บริเวณตัวอาคารของร้านอาหาร
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0151.jpg)
ส่วนแบบที่สองจะเป็นกระต๊อบไม้เป็นหลัง ตั้งเรียงกันอยู่ริมหน้าผา ด้านหน้าเป็นวิวทิวเขาและทะเลหมอก แต่วันนี้หมอกลอยตัวสูงเลยขาวโพนไปหมดจนมองไม่เห็นอะไรเลย
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0152.jpg)
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0148.jpg)
การสั่งอาหารจะต้องขึ้นไปสั่งด้านบน และจะมีพนักงานตามลงมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ ระหว่างที่รอมีเจ้าถิ่นมาคอยต้อนรับ
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0137.jpg)
และขยับมานอนหลับบนตักพวกเราเฉยเลย สงสัยจะหนาวเลยมาหาที่อุ่นๆนอน
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0145.jpg)
อาหารมีตั้งแต่ราคาหลักสิบจนถึงหลักร้อย พวกเราสั่งกับข้าวมา 3 อย่าง ข้าวเปล่า 2 จาน และน้ำดื่ม หมดไปประมาณ 300 กว่าบาท
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0136.jpg)
พอเติมพลังเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปเดินถ่ายรูปเล่นกันต่อ
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0154.jpg)
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0156.jpg)
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0163.jpg)
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0167.jpg)
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0169.jpg)
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0172.jpg)
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0179.jpg)
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0183.jpg)
พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง และเดินทางกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
![ม่อนแจ่ม](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0164.jpg)
![แผนที่](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0002.jpg)
อ่างแก้ว มช.
และแวะเข้าไปนั่งเล่นชมวิวย้อนความหลังสมัยตอนจีบกันใหม่ๆที่อ่างแก้ว ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
![อ่างแก้ว มช.](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0205.jpg)
สุกี้ช้างเผือก
ก่อนจะพาตากลมไปทานอาหารเย็นที่ร้านโปรดของเธอ ร้านสุกี้ช้างเผือก สาขาหลัง มช. ร้านที่เธออ้อนให้พามากินทุกครั้งที่มาเที่ยวเชียงใหม่
![สุกี้ช้างเผือก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0209.jpg)
กับเมนูสุกี้แห้ง เพิ่มวุ้นเส้นเยอะๆ เมนูโปรดของเธอ เห็นตัวเล็กๆแบบนี้แต่จุมาก เคยสั่งมากินคนเดียว 2 ชาม
![สุกี้ช้างเผือก](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0207.jpg)
หลังจากกินอิ่มพวกเราก็รีบบึ่งไปที่สนามบิน เพื่อคืนรถและเช็คอินท์ ช่วงวันหยุดผู้โดยสารเยอะมาก รถก็ติดเกือบตกเครื่องเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็เดินทางถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับความประทับใจ ถึงแม้ว่าเชียงใหม่จะไม่ใหม่สำหรับพวกเรา แต่ก็เที่ยวได้ไม่มีเบื่อ เพราะพวกเราตกหลุมรักเชียงใหม่เข้าให้แล้ว
![แผนที่](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/04/Chiangmai-2016-0003.jpg)
เส้นทางดอยอ่างขาง – ม่อนแจ่ม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสุดโรแมนติกที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ เหมาะที่จะพาแฟนไปพักผ่อน ถ่ายรูปกับเหล่าดอกไม้ และสัมผัสอากาศหนาว โดยสามารถเที่ยวได้ในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
สรุปรายละเอียดการเดินทาง ดังนี้
DAY 1
- เดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่
- เช่ารถยนต์และเดินทางไปยัง ดอยอ่างขาง ระยะทางประมาณ 160 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (ไม่รวมแวะพัก) โดยสามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ เชียงใหม่ – อ.เชียงดาว – อ.ฝาง และ เชียงใหม่ – อ.เชียงดาว – บ้านอรุโณทัย ทั้งสองเส้นทางมีระยะทางพอๆกัน แต่แนะนำให้ไปเส้นบ้านอรุโณทัย เพราะทางไม่ชันและขับง่ายกว่า
- คืนแรกพักที่ “รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง” (Highlight : เตียงอุ่น ปรับอุณหภูมิได้)
- อาหารเย็นร้านถิงถิงโภชนา (Highlight : ขาหมูหมั่นโถว เห็ดหอมอบซีอิ้ว)
- ถนนคนเดิน ดอยอ่างขาง (Highlight : นมสดร้อน)
DAY 2
- ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่จุดชมวิวม่อนสน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
- ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล
- ไร่ชา 2000
- สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง (Highlight ชมดอกซากุระที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และชมแปลงรวบรวมพันธุ์บ๊วย)
- เดินทางกลับมายังม่อนแจ่ม
- คืนที่สองพักที่ “ม้ง ฮิลไทร์ป ลอจ์ด รีสอร์ท” (Highlight : บรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ และการแสดงพื้นเมืองของชาวม้ง)
- Website : www.hmonghilltribelodge.com
- Facebook : Hmong Hilltribe Lodge
DAY 3
- ชมวิวทะเลหมอกที่ม่อนตะวัน
- ทานข้าวกลางวันบนม่อนแจ่ม (Highlight : นั่งทานในกระต๊อบริมหน้าผา)
- ชมวิวและถ่ายรูปเล่นบนม่อนแจ่ม (Highlight : แปลงดอกป๊อบปี้)
- เดินทางกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
- แวะนั่งเล่นอ่างแก้ว มช.
- อาหารเย็นที่ร้านสุกี้ช้างเผือก สาขาหลัง มช. (Highlight : สุกี้แห้ง)
- สนามบินเชียงใหม่ และเดินทางกลับ