เชียงราย และ พะเยา
เชียงราย และ พะเยา เป็นอีกสองจังหวัดทางภาคเหนือที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย โดดเด่นด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ หากพอมีเวลาว่างสัก 4 วัน 3 คืน ก็สามารถสร้างสรรค์โรดทริปสองจังหวัดแบบหวานเย็น เที่ยวเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ไม่เน้นเก็บให้ครบ แต่เน้นการได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์และเย็นสดชื่นจากละอองหมอก และพักสายตาด้วยวิวของทุ่งนาอันเขียวขจีตลอดการเดินทาง
ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง
เริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองด้วยสายการบินนกแอร์ ไปลงที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ติดต่อรับรถที่จองเอาไว้แล้วล่วงหน้าที่เคาเตอร์บริการของ Avis Rent A Car เจ้าประจำของพวกเรา เพราะมั่นใจในคุณภาพของรถยนต์
เดินออกทางประตู 3 เพื่อไปรับรถที่สะอาดเอี่ยม น้ำมันเต็มถัง พร้อมใช้งาน
โอรา อาหารเหนือ เชียงราย
มื้อเช้าของวันแรกที่ร้าน โอรา อาหารเหนือ ในตัวเมืองเชียงราย
มีอาหารเช้าให้เลือกหลายเมนูและหลายสไตล์ เช่น โจ๊ก บะหมี่ ไข่กระทะ หรือ ขนมจีนน้ำเงี้ยว
พวกเราเลือกไข่กระทะทรงเครื่องมีท็อปปิ้งเป็นไส้อั่ว ทานคู่กับขนมปังญวน และขนมจีนน้ำเงี้ยว เส้นหนานุ่ม รสชาติเข้มข้น และน้ำส้มคั้น 100%
บรรยากาศภายในร้าน
หลังอิ่มจากอาหารเช้า พวกเราออกเดินทางต่อไปยังจังหวัดพะเยา ซึ่งอยู่ห่างจากเชียงรายประมาณ 90 กิโลเมตร ด้วยถนนสี่เลน ขับง่าย ส่วนใหญ่เป็นทางตรง มีฝนตกเป็นระยะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
บ้านต้นเต๊า coffee & food ณ บ้านบัว
สถานที่แรกของพะเยาที่พวกเรามาแวะคือ บ้านต้นเต๊า coffee & food ณ บ้านบัว เป็นร้านอาหาร คาเฟ่ และบริการที่พักท่ามกลางธรรมชาติ
บ้านต้นเต๊า อาจจะฟังไม่ค่อยคุ้นหู เพราะมีชื่อมาจากชื่อของต้นตองเต๊า ไม้มงคลของคนเหนือ ต้นจริงมีใบขนาดใหญ่อยู่ด้านซ้ายของป้าย
พอเดินเข้ามาภายในร้านได้พบกับน้องภูเขา พนักงานต้อนรับสุดน่ารักยืนรอทักทายอย่างเป็นกันเอง
นอกจากน้องภูเขาแล้ว ก็ยังมีน้องทะเล ฝ่ายเฝ้าระวังอีกหนึ่งตัว แต่วันนี้ไม่ได้มาทำงานเลยอดเจอ
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และโคมไฟจักสานดูเรียบง่าย
ด้านข้างมีลำธารเล็กๆ ไหลผ่าน มีระเบียงยื่นออกไปให้นั่งชมวิวป่าไผ่
มีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกหลายเมนู สำหรับเมนูที่แนะนำคือ ชุดแกงฮังเล ทานกับข้าวสวยร้อนๆ
ภายในร้านและบริเวณรอบๆ ประดับด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความร่มรื่นและสบายตา
เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น.
อุโมงค์ไม้ไผ่บ้านบัว พะเยา
ไม่ไกลจากบ้านต้นเต๊า มีอุโมงค์ไม้ไผ่บ้านบัวให้ได้แวะไปถ่ายรูปเล่น
ข้อดีของการขับรถเที่ยว คือ การได้ออกนอกเส้นทาง เวลาที่เจอวิวสวยๆ อยากแวะตรงไหน แวะเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจเรา
โรงแรมภูกลอง พะเยา
ขับกลับเข้าตัวเมืองเชียงราย เพื่อเช็คอินเข้าที่พัก โรงแรมภูกลอง ซึ่งตั้งอยู่ริมกว๊านพะเยา ห้องพักแบบ Suite เป็นห้องที่แนะนำเพราะสามารถมองเห็นวิวของกว๊านพะเยาได้แบบพาโนราม่า
ห้องพักกว้าง เตียงนุ่มสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ครัวออโรร่า กว๊านพะเยา
มื้อเย็นแนะนำว่าควรมาทานข้าวริมกว๊านพะเยา พวกเราโทรจองโต๊ะที่ร้านครัวออโรร่าไว้ล่วงหน้า เพราะอยากได้ที่นั่งติดริมน้ำ แต่ฝนตกเลยต้องย้ายเข้ามานั่งด้านใน
แม้จะไม่ได้นั่งริมน้ำ ก็สามารถซึมซับบรรยากาศของกว๊านพะเยาได้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน ยิ่งมีฝนตกลงมาเบาๆ ยิ่งช่วยเพิ่มความโรแมนติกไปได้อีกแบบ
สำหรับเมนูแนะนำ คือ เมี่ยงปลาเผา ทานคู่กับผักสด ราดด้วยน้ำจิ้มสามรสหรือน้ำจิ้มหวานสูตรโบราณ และหอมเจียว
และกุ้งฝอยทอด ทานคู่กับน้ำจิ้มอาจาด ของดีจากกว๊านพะเยาที่ห้ามพลาด
สำหรับวันที่ 2 พวกเราใช้เวลาทั้งหมดอยู่เฉพาะในตัวเมืองพะเยาเท่านั้น เน้นไหว้พระ ทำบุญ และปิดท้ายด้วยการนั่งชิลที่คาเฟ่ริมกว๊านพะเยา
วัดติโลกอาราม
วัดติโลกอาราม วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางกว๊านพะเยา หนึ่งในโบราณสถานสำคัญของจังหวัดพะเยาที่ควรแวะมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
การเดินทางข้ามไปยังวัด ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ กลางกว๊านพะเยา ต้องนั่งเรือแจวของทางวัดเท่านั้น ค่าตั๋วคนละ 30 บาท สามารถนั่งได้สูงสุด 5 คน ถ้าไปช่วงที่คนน้อยไม่เต็มลำ สามารถเหมาเรือได้ในราคา 150 บาท
เรือที่นั่งใช้แรงคนพาย มีเสื้อชูชีพให้ใส่ ปลอดภัย ไร้มลพิษ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
วัดติโลกอารามหรือสันธาตุบวกสี่แจ่ง พระอารามหลวงในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนาลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์มังราย สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2019 – 2029 ปัจจุบันตัววัดจมอยู่ใต้กว๊านพะเยา ยกเว้นส่วนยอดพระธาตุที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ที่มา : วิกิพีเดีย
บริเวณลานตรงกลางเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อศิลากว๊านพะเยา พระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย อายุกว่า 500 ปี
ก่อนขึ้นเรือสามารถซื้อเทียนดอกไม้สีประจำวันเกิด นำมาลอยบนเรือที่อยู่บนวัดได้
บนเกาะบรรยากาศร่มรื่น มีลมเย็นๆ พัดเข้ามาตลอดเวลา และเงียบสงบมาก เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.
ลานพญานาค กว๊านพะเยา
ลานพญานาค กว๊านพะเยา เป็นอีกหนึ่งจุดแลนมาร์คสำคัญของจังหวัดพะเยาที่แขกไปใครมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปและนั่งชมวิวกว๊านพะเยา
โดดเด่นด้วยประติมากรรมพญานาคสีขาว 2 ตน หันหน้าเข้าหากัน โดยมีองค์พระธาตุจอมทองจำลอง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองพะเยาตั้งอยู่ตรงกลาง
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง
บริเวณสวนสาธารณะริมกว๊านพะเยา ตรงข้ามกับลานพญานาค คือ อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ศูนย์รวมจิตใจของชาวพะเยา
องค์พ่อขุนงำเมือง เป็นรูปปั้นสำริดความสูงเท่าครึ่งขององค์จริงในท่าประทับยืน ทรงชุดกษัตริย์สวมมงกุฎ พระหัตถ์ถือดาบอาญาสิทธิ์ หันพระพักตร์ไปทางกว๊านพะเยา ประดิษฐานบนแท่นสูง ที่มา : มิวเซียมไทยแลนด์
วัดศรีโคมคำ
วัดศรีโคมคำ หรือ วัดพระเจ้าตนหลวง พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย
ภายในวิหารประดิษฐานพระเจ้าตนหลวงเป็นพระประธาน สร้างขึ้นในรัชสมัยของพญายอดเชียงราย กษัตริย์ลำดับที่ 10 แห่งราชวงศ์มังราย ที่มา : วิกิพีเดีย
วัดพระธาตุจอมทอง
พระธาตุจอมทอง ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระธาตุจอมทอง เป็นปูชนียสถานโบราณคู่เมืองพะเยา อันเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวเมืองพะเยามาตั้งแต่โบราณ
พระธาตุจอมทองเป็นเจดีย์ทรงล้านนาสูง ๓๐ เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง ๙ เมตร ซ้อนกันสามชั้น รองรับองค์ระฆัง ส่วนยอดสุดเป็นฉัตรสีทอง ฐานโดยรอบข้างล่างบุด้วยแผ่นโลหะ ดุนลายเป็นรูป ๑๒ นักษัตร และลายไทยอันงดงาม ที่มา : มิวเซียมไทยแลนด์
ใกล้กับองค์พระธาตุจอมทอง ประดิษฐานองค์พระเจ้าทันใจ ให้ได้เข้ามาสักการะขอพร
บ้านอิงกว๊าน Baan Ing Kwan Bar & Cafe
หลังจากตระเวนไหว้พระตามวัดที่สำคัญของจังหวัดพะเยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนเดินทางกลับเชียงราย พวกเรามาแวะกันที่ บ้านอิงกว๊าน Baan Ing Kwan Bar & Cafe คาเฟ่สุดชิลริมกว๊านพะเยา
จุดเด่นของร้านของก็คือ บรรยากาศที่เงียบสงบ มีผืนน้ำกว้างอยู่เบื้องหน้า วิวต้นไม้เขียวๆ และทิวเขาที่ถูกปกคลุมด้วยสายหมอกเป็นพื้นหลัง
มีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกหลายหลายเมนู
เมนูอาหารที่แนะนำ คือ เกี๊ยวซ่าปลานิลมันม่วงอิงกว๊าน
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.00 น. ศุกร์ เสาร์ เปิดถึง 23.00 น.
หลังจากเต็มอิ่มกับบรรยากาศ พวกเราขับรถกลับมายังจังหวัดเชียงราย และไปเช็คอินที่โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท
เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท
โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท ที่พักสุดหรู ริมแม่น้ำกก ในบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน และใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
ห้องพักแบบ Deluxe Garden View มาพร้อมกับวิวสวน สระว่ายน้ำ แม่น้ำกก และต้นจามจุรียักษ์ ภายในห้องกว้างขวาง เตียงนอนนุ่มสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
สระว่ายน้ำกลางแจ้งแบบ Infinity Pool
เอกลักษณ์ของโรงแรม คือ ต้นจามจุรียักษ์จำนวนสองต้น แผ่กิ่งก้านให้ความร่มรื่น
ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการทำงานที่ Parvati Spa
ดินเนอร์ที่ Favola ห้องอาหารอิตาเลียนสุดโรแมนติก ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมแม่น้ำกก และอาหารรสชาติเยี่ยม พร้อมกับจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ฟังเพลงเบาๆ
อ่านรีวิวฉบับเต็มของโรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท คลิกที่นี่
Melt in Your Mouth
หลังจากเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท พวกเราไปแวะทานข้าวกลางวันกันที่ Melt in Your Mouth ร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตกแต่งในสไตล์อังกฤษ รายล้อมด้วยธรรมชาติ
มีอาหาร เครื่องดื่ม และของหวานให้เลือกหลายหลายเมนู มื้อนี้พวกเราสั่งชุดเมลท์ล้านนา เป็นชุดอาหารเหนือที่ประกอบไปด้วย แกงฮังเล ไส้อั่ว ลาบเหนือคั่วหมู แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม และผักสด
ปิดท้ายด้วย แพนเค้กช็อคโกแลต และชาเขียวนมท็อปถั่วแดง
บรรยากาศภายนอกของร้านร่มรื่นมาก และมีแม่น้ำกกไหลผ่าน
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 20.30 น.
เชียงราย เรียวกัง
คืนสุดท้ายพวกเรามาพักกันที่ เชียงราย เรียวกัง ที่พักสไตล์เรียวกัง แบบฉบับจากญี่ปุ่น เหมาะสำหรับคนที่กำลังคิดถึงประเทศญี่ปุ่น แต่ไปเที่ยวไม่ได้เพราะติดโควิด
บรรยากาศเหมือนได้มาพักผ่อนอยู่ที่เรียวกังในแถบชนบทอันเงียบสงบของญี่ปุ่น รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
เรียวกัง คาเฟ่ Ryokan Cafe’
นอกจากที่พักแล้วที่นี่ยังมีคาเฟ่เปิดให้บริการอยู่ข้างๆกันอีกด้วย เป็นคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นชื่อว่า เรียวกัง คาเฟ่ Ryokan Cafe’
จุดเด่นของที่นี่ คือ มุมถ่ายรูปคู่กับเจ้าโทโทโร่ซัง การ์ตูนตัวโปรดในวัยเด็กของใครหลายๆ คน กำลังยืนรอต้อนรับให้ทุกคนได้มาถ่ายรูปตามรอยอยู่บริเวณป่าไผ่
สำหรับลูกค้าที่เข้าพัก เชียงราย เรียวกัง จะมีชุดยูกาตะ 2 ชุด จัดเตรียมเอาไว้ให้ในห้อง สามารถใส่ออกมาถ่ายรูปเล่นรอบๆที่พักและคาเฟ่ได้
คาเฟ่มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และขนมสไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกหลากหลายเมนู
เมนูแนะนำ คือ เค้กชาเขียว บราวนี่ช็อกโกแลต ไอศครีมรสวาซาบิ และฮอกไกโดฮาเซนนัท
สำหรับแขกที่เข้าพักเรียวกัง อาหารเช้าจะถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้บริเวณคาเฟ่แห่งนี้
มีพนักงานต้อนรับชื่อน้องแพนด้า ที่อยู่ต้อนรับบ้างไม่อยู่บ้าง เพราะชอบออกไปวิ่งเล่นรอบหมู่บ้าน
เรียวกัง คาเฟ่ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.30 น.
บริเวณใกล้ๆ กับคาเฟ่ส่วนใหญ่ปลูกข้าว ช่วงฤดูฝนแบบนี้ต้นข้าวกำลังแตกหน่อออกใบเขียวขจี ตัดกับสีของท้องฟ้าหลังฝนอย่างสวยงาม ดูแล้วสบายตามากๆ
โรงสี Rooftop Cafe
หลังจากเช็คเอาท์ออกจาก เชียงราย เรียวกัง ยังพอมีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ พวกเราจึงไปแวะนั่งชิลกันที่ โรงสี ที่ไม่ได้มีไว้สีข้าว แต่เป็น Rooftop Cafe ลับใจกลางเมืองเชียงราย ติดกับเชียงรายไนท์บาร์ซ่าร์
มีบริการอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบ สำหรับเมนูที่แนะนำ คือ Homemade Pizza หน้าฮาวาเอียน แป้งบางกรอบ ชีสยืดๆ อร่อยมากๆ
ส่วนเครื่องดื่มที่แนะนำ คือ ชาพีชและโกโก้เย็น
ช่วงกลางวันเปิดเพลงชิลๆ จิบชาพีชรับลมบนดาดฟ้า ส่วนกลางคืนเปลี่ยนเป็นดนตรีสด จิบเครื่องดื่มเย็นๆ รับแสงจันทร์
ร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของเก่าแนวคลาสสิก มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เยอะมาก
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 24.00 น.
และทั้งหมดนี้ก็คือ โรดทริปเส้นทาง เชียงราย พะเยา ด้วยระยะเวลา 4 วัน 3 คืน แบบหวานเย็น เที่ยวเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ไม่เน้นเก็บให้ครบ แต่เน้นการได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์และเย็นสดชื่นจากละอองหมอก และพักสายตาด้วยวิวของทุ่งนาอันเขียวขจีตลอดการเดินทางในแบบฉบับของพวกเรา
สรุปรายละเอียดการเดินทาง ดังนี้
DAY 1
- ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มาลงที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
- แวะทานมื้อเช้า โอรา อาหารเหนือ เชียงราย
- ออกเดินทางไปจังหวัดพะเยา
- มื้อกลางวัน บ้านต้นเต๊า coffee & food ณ บ้านบัว
- แวะชม อุโมงค์ไม้ไผ่บ้านบัว
- เช็คอินเข้าที่พัก โรงแรมภูกลอง พะเยา
- มื้อเย็น ครัวออโรร่า กว๊านพะเยา
DAY 2
- ล่องเรือไปชม วัดติโลกอาราม กลางกว๊านพะเยา
- ชมวิว ลานพญานาค กว๊านพะเยา
- สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง
- สักการะ พระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ
- สักการะพระธาตุจอมทอง วัดพระธาตุจอมทอง
- นั่งชิลชมวิว บ้านอิงกว๊าน Baan Ing Kwan Bar & Cafe
- เดินทางกลับเชียงราย
- เช็คอินเข้าที่พัก เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท
DAY 3
- พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มที่ เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท
- ชิมอาหารเหนือ Melt in Your Mouth
- เช็คอินเข้าที่พัก เชียงราย เรียวกัง
DAY 4
- ถ่ายรูปกับโทโทโร่ซัง เรียวกัง คาเฟ่ Ryokan Cafe’
- นั่งชิลบนดาดฟ้า โรงสี Rooftop Cafe
- เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ช่วงเวลาเดินทาง : 21 – 24 สิงหาคม 2563
สรุปรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบินสายการบิน Nok Air ไป-กลับ ราคา 2,237 บาท/คน จองผ่านแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซด์ของ Traveloka พร้อมรับสิทธิพิเศษเป็นส่วนลดเพิ่มเติม
- ค่าเช่ารถ Avis Rent A Car : Honda City เครื่อง 1.5 วันละ 700 บาท รวม 4 วัน 2,800 บาท (คืนช้าฟรี 4 ชม.) ลูกค้าเก่าสามารถลดเพิ่มได้ 100 บาท/ครั้ง
- Website : Avisthailand.com
- Call Center : 02-251-1131
- ค่าน้ำมัน 590 บาท
Tips : การเช่ารถขับ คือ การขับรถที่ไม่คุ้นมือและไม่คุ้นเคยเหมือนกับรถของตัวเอง ไม่รู้ว่าสภาพรถจะเป็นยังไง จะเสียตรงไหนบ้างรึเปล่า คือความกังวลแรกๆที่เราเริ่มเช่ารถขับเที่ยว แต่พอได้ใช้บริการของ AVIS ความกังวลตรงนั้นหมดไป เพราะได้รถใหม่และสถาพดีพร้อมใช้งาน ตั้งแต่ใช้บริการมาเกือบจะ 10 ครั้งแล้ว รถไม่เคยมีปัญหาเลยสักครั้งเดียว AVIS Rent A Car จึงเป็นบริษัทเช่ารถที่เราอยากแนะนำ
- ค่าที่พัก โรงแรมภูกลอง พะเยา ห้อง Suite จำนวน 1 คืน 2,000 บาท พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน ช่องทางการติดต่อ ดังนี้
- Facebook : Phuglong Hotel
- Website : www.phuglong.com
- Tel : 054-481915 , 063 789 1999
- ค่าที่พัก โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท ห้อง Deluxe Garden View จำนวน 1 คืน ราคา 2,999 บาท พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน (ภายในเดือนตุลาคม 2563 ใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน จ่ายเพียง 1,799.40 บาท/คืน) ช่องทางการติดต่อ ดังนี้
- Facebook : Le Méridien Chiang Rai Resort
- Website : www.myclubmarriott.com
- Tel : 053-603333
- ค่าที่พัก เชียงราย เรียวกัง (มีทั้งหมดแค่ 4 ห้อง เหมือนกันทุกห้อง) จำนวน 1 คืน ราคา 3,750 บาท (ราคาโปรโมชั่น จากราคาปกติ 4,500 บาท/คืน) พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน ช่องทางการติดต่อ ดังนี้
- Facebook : Ryokan Cafe’
- Tel : 081-8683010
- ค่าอาหารและอื่นๆ : ตามอัธยาศัย