หากมีเวลาว่างแค่เสาร์อาทิตย์ แต่อยากจะหลีกหนีชีวิตที่แสนวุ่นวายในเมืองหลวง ไปนอนพักบนเรือนแพ แช่ตัวในอ่างจากุชชี่ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวผืนน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา มีพื้นหลังเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน เพื่อชาร์ตพลังให้เต็ม 100% แล้วกลับมาลุยงานต่อ รายาบุรี รีสอร์ท กาญจนบุรี นี่แหละตอบโจทย์
DAY 1
พวกเราเริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง โดยเลือกใช้บริการรถเช่าของ ThaiRent A Car ซึ่งจองผ่านเว็บไซด์ MamyBooking.com เว็บเอเจนซี่รับจองทริปทัวร์และรถเช่า ในราคาที่ถูกกว่าจองตรง พร้อมด้วยโปรโมชั่น Code ส่วนลดเพิ่มเติม
![วิธีเดินทาง กาญจนบุรี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-017.jpg)
แจ้งชื่อ ยื่นใบขับขี่ บัตรประชาชน และบัตรเครดิต เพื่อติดต่อรับรถที่เคาร์เตอร์บริการ บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า ภายในประเทศ ชั้น 1 (Terminal 2) จากนั้นก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ กาญจนบุรี
![วิธีเดินทาง กาญจนบุรี](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-019.jpg)
รายาบุรี รีสอร์ท
จากสนามบินดอนเมืองมายัง รายาบุรี รีสอร์ท ที่พักของพวกเราในครั้งนี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง รวมแวะพักระหว่างทาง
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-044.jpg)
โรงแรมรายาบุรี รีสอร์ท ตั้งอยู่ในเขื่อนศรีนครินทร์ มีที่พักให้เลือกทั้งแบบบนบกริมเชิงเขาและเรือนแพบนน้ำในเขื่อน
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-024.jpg)
สำหรับห้องพักของพวกเราเป็นเรือนแพบนน้ำ แบบ “Raya Island Jacuzzi Suite” เป็นห้องใหม่ล่าสุดของโรงแรมที่ตกแต่งได้อย่างหรูหรา กว้างขวาง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-002.jpg)
ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และผนังโทนสีขาวฟ้า แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่น มีเตียงนอนขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-004.jpg)
เตียงนอน หมอนหนุน และหมอนข้างนุ่มมาก ด้านข้างมีโคมไฟช่วยสร้างบรรยากาศให้รู้สึกอบอุ่น
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-003.jpg)
ด้านข้างของเตียงมีโซฟายาวให้ได้นั่งเล่น
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-005.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-006.jpg)
จากเตียงนอนสามารถมองผ่านกระจกบานใหญ่ออกไปที่ระเบียง พร้อมวิวของพื้นน้ำและทิวเขา
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-008.jpg)
ด้านนอกมีระเบียงกว้างๆ พร้อมเก้าอี้นั่งเล่นชมวิว และบันไดลงไปที่แพไม้ไผ่เล็กๆ เพื่อสัมผัสน้ำ
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-007.jpg)
ห้องของพวกเราอยู่ริมสุดทางด้านทิศตะวันออก จึงสามารถมองออกไปเห็นวิวพื้นน้ำและทิวเขาไกลสุดลูกหูลูกตาโดยไม่มีอะไรมาบัง
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-014.jpg)
ด้านข้างของระเบียงมีอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ ที่เปิดโล่งพร้อมม่านบัง
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-010.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-013.jpg)
แช่และนวดตัวในน้ำอุ่น และมองออกไปยังผืนน้ำที่เงียบสงบ ฟินมากๆ
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-018.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-015.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-016.jpg)
ห้องอาบน้ำมีประตูเชื่อมกับระเบียง
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-009.jpg)
มีฝักบัวให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและ Rain Shower
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-031.jpg)
ภายในห้องน้ำแยกพื้นที่ออกเป็นสามส่วน คือ ห้องอาบน้ำ ห้องส้วม และห้องแต่งตัว พร้อมอ่างล้างหน้า
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-030.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-025.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-027.jpg)
มีบาร์ขนมและเครื่องดื่ม อย่างชา กาแฟ โอวันติน พร้อมเครื่องชงกาแฟและกาต้มน้ำคอยให้บริการ
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-028.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-029.jpg)
ห้องส้วมอยู่ด้านในสุดใกล้กับประตูทางออก
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-026.jpg)
โรงแรมมีห้องอาหารเย็นไว้คอยให้บริการลูกค้า ตั้งอยู่บนฝั่ง สามารถมองเห็นวิวผืนน้ำจากมุมสูง
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-021.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-020.jpg)
มีอาหารหลากหลายเมนูให้เลือก รสชาติดี อร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะข้าวผัดสับปะรด
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-023.jpg)
ส่วนราคาก็ไม่แพง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณหลักร้อยต้นๆ
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-022.jpg)
DAY 2
บรรยากาศยามเช้าสดชื่นมาก มีลมเย็นๆพัดผ่านมาตลอดเวลา
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-032.jpg)
มีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ ช่วยเพิ่มความฟินด้วยกลิ่นฝน
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-033.jpg)
ห้องอาหารเช้าอยู่ที่เดียวกันกับอาหารเย็น เป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีทั้งอาหารไทยและฝรั่ง
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-036.jpg)
เด็ดสุดขอยกให้ข้าวต้มกุ๊ยร้อนๆ พร้อมด้วยเครื่องเคียงรสชาติเยี่ยมหลากหลายชนิด
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-034.jpg)
ที่โรงแรมมีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปั่นเรือเป็ด พายเรือคายัค หรือล่องแพชมวิว
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-037.jpg)
แพชมวิวมีให้เลือกทั้งแบบลำใหญ่เป็นหมู่คณะ และแพเล็กส่วนตัว นั่งได้ประมาณ 10 คน
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-038.jpg)
ช่วงเวลาที่เหมาะต่อการล่องแพคือช่วงเช้าและเย็น สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปทานบนแพได้
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-039.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-040.jpg)
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-041.jpg)
หลังจากล่องเรือชมวิวจนพอใจ ก็กลับมาแช่ตัวในอ่างจากุชชี่ต่อก่อนเช็คเอาท์
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-042.jpg)
รายาบุรี รีสอร์ท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรมในเขื่อนศรีนครินทร์ที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ ห้องพักสวย สะดวกสบาย และบริการประทับใจ เหมาะกับการหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงมาชาร์ตพลังมากๆ แนะนำว่าต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวคุณเอง
![รายาบุรี รีสอร์ท](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-043.jpg)
เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔
จุดหมายต่อไปที่พวกเราตั้งใจมาแวะก่อนกลับเข้ากรุงเทพฯก็คือ เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ เป็นเมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-059.jpg)
ที่นี่เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 20.00 น. ค่าบัตรเข้าชม + รับประทานอาหารกลางวัน (บุฟเฟ่ต์) + ชุดไทย ผู้ใหญ่ 650 บาท/คน (สามารถซื้อแยกและนำชุดมาเองได้)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-058.jpg)
มีชุดให้เลือกหลากหลายขนาดและสีสัน ผู้หญิง มีให้เลือก 2 แบบ คือ ผ้าสไบและเสื้อแขนหมูแฮม พร้อมแพรสะพาย พร้อมโจงกระเบน เครื่องประดับ เข็มรัด และร่ม
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-055.jpg)
ผู้ชายมีให้เลือก 2 แบบ คือ เสื้อกุยเฮง โจงกระเบน ผ้าคาดเอว และเสื้อราชปะแตนกับโจงกระเบน
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-056.jpg)
เมื่อชุดพร้อมแล้วก็เดินผ่านประตูเมืองเข้าไปท่องเที่ยวแบบย้อนยุคกันด้านในได้เลย
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-060.jpg)
บริเวณด้านหน้าประตูเมืองมีบริการรถลากหรือรถเจ๊กที่ใช้คนลาก เพื่อพาลัดเข้าไปเริ่มต้นที่ด้านในสุดของเมือง หรือจะขอยืมใช้เป็นพร็อพถ่ายรูปเฉยๆก็ได้เหมือนกัน
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-061.jpg)
หากต้องการซื้อของกินและของฝากจากด้านในจะต้องใช้เงินรู (จำลอง) เป็นเงินตราที่ใช้ในสมัยอยุธยาและสุโขทัย และได้นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในเมืองมัลลิกา อัตราการแลกเงินรู คือ 1 สตางค์ = 5 บาท สามารถแลกได้จากที่ซื้อตั๋วเข้าชม
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-062.jpg)
จุดแรกหลังจากผ่านประตูเมืองเข้ามาคือ สะพานหัน (จำลอง) แบบสะพานริอัลโตทีนครเวนิซ และที่ปองเตเวกคิโอ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-063.jpg)
เป็นสะพานไม้โค้งกว้าง สองฟากสะพานมีห้องแถวเล็กๆ ให้ขายของ ส่วนตรงกลางเป็นทางเดิน
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-064.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-065.jpg)
เมื่อข้ามสะพานหันมาแล้วก็จะถึงย่านถนนแพร่งนรา เป็นย่านการค้าที่ขึ้นชื่อในสมัย ร.ศ. ๑๒๔
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-066.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-067.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-068.jpg)
มีสินค้าให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือของที่ระลึกมากมาย
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-069.jpg)
มีขนมไทยโบราณที่ทำสดใหม่จากเตาให้ได้ลิ้มลอง
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-070.jpg)
พร้อมทั้งสาธิตวิธีการทำให้ดูกันอย่างใกล้ชิด
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-071.jpg)
มีอาหารหวานคาวให้เลือกลิ้มลองหลายอย่าง
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-073.jpg)
ผัดไทยร้านนี้ก็อร่อย น้ำดื่มใส่ในขันเย็นชื่นใจ
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-074.jpg)
ย่านการค้าเป็นจุดที่คึกคักที่สุดของเมือง เต็มไปด้วยพ่อค้า แม่ค้า และลูกค้าที่รอคิวซื้ออาหาร
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-072.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-075.jpg)
ลูกชุปและช่อม่วงสดใหม่จากเตา
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-077.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-076.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-078.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-080.jpg)
หากชอปปิ้งจนเงินรูที่แลกมาหมดก็ไม่ต้องกังวล เพราะด้านในมีธนาคารให้แลกเงินได้ตลอด
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-079.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-081.jpg)
มีศาลเจ้าแม่ทับทิม ซ่อนตัวอยู่ในห้องแถวเล็กๆในย่านเยาวราช ให้ได้เข้าไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-082.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-099.jpg)
จากย่านการค้าสามารถเดินข้ามสะพานไปยังเรือนหมู่ เป็นเรือนสำหรับรับรองแขกบ้านแขกเมืองของคหบดีในสมัยก่อน บนเรือนจะมีการแสดงนาฎศิลป์ไทย และเสริฟอาหารไทยโบราณแบบบุฟเฟ่ต์ สำหรับอาหารมื้อเย็น เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.00 น.
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-098.jpg)
ส่วนด้านล่างของเรือนหมู่ เปิดให้บริการอาหารมื้อกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ ตั้งแต่เวลา 11.00 – 14.00 น.
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-045.jpg)
ประกอบไปด้วยทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่มสมุนไพรไทย มีให้เลือกรับประทานกันอย่างจุใจ มากถึง 18 เมนู
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-047.jpg)
ด้วยรสชาติและกรรมวิธีในการทำแบบดั้งเดิม ซึ่งยากที่จะหาทานได้ในปัจจุบัน อาทิ หมูสโร่งแปลง แกงบวน แกงรัญจวน แยมหยวก ขนมลืมกลืน ขนมรังไร ม้าฮ้อ เป็นต้น
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-048.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-051.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-046.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-049.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-050.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-052.jpg)
หลังจากที่ได้ลิ้มลองแล้ว พูดได้เต็มปากเลยว่าอร่อยมากๆ อาหารหลายอย่างเพิ่งเคยทานเป็นครั้งแรกและรู้สึกติดใจในรสชาติมากๆ
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-054.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-053.jpg)
ทานอาหารกลางวันเสร็จก็ออกมาเดินย่อยชมเมืองส่วนที่เหลือกันต่อ ด้านหลังคือ หอชมเมืองจำลอง ที่ตั้งอยู่กลางเมือง สมัยก่อนใช้เป็นหอคอยสำหรับตรวจตราป้องกันมิให้นักโทษหนี สามารถขึ้นไปชมเมืองมัลลิกาจากมุมสูงได้
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-083.jpg)
จุดต่อมาคือเรือนแพกลางน้ำ มีร้านอาหารอยู่บนแพ และตลาดน้ำที่ขายของบนเรือพาย
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-084.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-085.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-086.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-087.jpg)
จุดถัดไปคือ เรือนคหบดี เป็นเรือนพักสำหรับคหบดีหรือคนมีฐานะในสมัยก่อน
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-088.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-095.jpg)
จัดแสดงเครื่องเรือน งานใบตอง งานดอกไม้ งานเครื่องแขวน และงานแกะสลักผลไม้
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-096.jpg)
และจุดสุดท้ายอยู่บริเวณด้านหลังของเมือง เป็นโรงครัว ซึ่งประกอบด้วย โรงสี ยุ้งข้าว โรงเตรียม แสดงกรรมวิธีการฝัดข้าว สีข้าว และตำข้าว
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-089.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-094.jpg)
ไฮไลด์ของจุดนี้คือน้องกระบือเผือกสองตัวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตากินอาหารบดจากพืชอย่างเอร็ดอร่อย
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-090.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-091.jpg)
มีน้องแมวและน้องหมาเดินเล่นไปมาหลายตัว น่ารักและขี้อ้อนมากๆ
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-092.jpg)
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-093.jpg)
เมืองมัลลิกาสามารถจำลองบรรยากาศบ้านเมืองในยุค ร.ศ. ๑๒๔ ออกมาได้เป็นอย่างดี ทุกสถานที่ล้วนมีเรื่องราวและที่มาสอดคล้องกับยุคสมัยอย่างลงตัว ยิ่งเมื่อได้แต่งกายให้เข้ากับบรรยากาศ ยิ่งทำให้รู้สึกอินกับสถานที่มากๆ จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่อยากให้ลองได้ไปสัมผัส
![เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-097.jpg)
![แผนที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2018/04/Kanchanaburi-2018-100.jpg)
และทั้งหมดนี้ก็คือทริปกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน ในแบบของเรากับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ท่ามกลางธรรมชาติ บนที่พักแบบเรือนแพ แช่ตัวในอ่างจากุชชี่มองดูผืนน้ำและทิวเขา ณ รายาบุรี รีสอร์ท และแต่งกายชุดไทย ห่มสไบ ท่องไปในเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ ในบรรยากาศแบบย้อนยุค ช่วยทำให้วันหยุดเสาร์อาทิตย์มีคุณค่าและเรื่องราวความประทับใจร่วมกันเพิ่มมากขึ้น
สรุปรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้
- ค่าเช่ารถ Toyota Vios 1,000 บาท/วัน (2 วัน) รถเช่าของ ThaiRent A Car จองผ่านเว็บไซด์ Mamybooking.com เว็บเอเจนซี่รับจองทริปทัวร์และรถเช่า ในราคาที่ถูกกว่าจองตรง พร้อมด้วยโปรโมชั่น Code ส่วนลดเพิ่มเติม
- ค่าน้ำมันประมาณ 500 บาท
- ค่าที่พัก รายาบุรี รีสอร์ท (Rayaburi Resort) 1 คืน ห้องแบบ Raya Island Jacuzzi Suite 7,500 บาท/คืน (ราคาโปรโมชั่น)
- Website : Rayaburiresort.com
- Facebook : Rayaburi
- โทรศัพท์: (+66) 2316-3577, (+66) 2317-1274, (+66) 96-356-2945
- ค่าบัตรเข้าชมเมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ + รับประทานอาหารกลางวัน (บุฟเฟ่ต์) + ชุดไทย ผู้ใหญ่ 650 บาท/คน
- Website : Mallika124.com
- Facebook : MallikaR.E.124
- โทรศัพท์: 034 540884-86
- ค่าอาหารและอื่นๆ : ตามอัธยาศัย