หากให้ลองลิสต์รายชื่อเกาะในประเทศไทยที่อยากไปมากที่สุดมา 5 เกาะ เชื่อว่า 1 ในนั้นจะต้องมี เกาะช้าง จ.ตราด เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากภูเก็ต แต่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของอ่าวไทย เกาะที่มีท้องทะเล ชายหาด และภูเขาที่สวยงาม มีโรงแรมสุดแสนโรแมนติกอย่าง เดอะ เดวา เกาะช้าง (The Dewa Koh Chang) ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
ทำให้เกาะช้างเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆที่ควรมาสัมผัส เหมาะที่จะพาแฟนหนีอากาศร้อนและความวุ่นวายในเมืองหลวงมานอนพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติก ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เพื่อชาร์ตพลังกายและใจให้เต็มเปี่ยม เพียงพอต่อการกลับไปเผชิญหน้ากับภาระหน้าที่ของชีวิตมนุษย์เงินเดือน
DAY 1
พวกเราเริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน Bangkok Airways เที่ยวบิน PG 305 เวลา 11.40 น.ถึงสนามบินตราดเวลา 12.40 น. ใช้เวลาบินเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น โดยมีให้บริการวันละ 3 เที่ยวบินต่อวัน
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-010.jpg)
หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไปนั่งเล่นรอเวลาเรียกขึ้นเครื่องที่ Boutique Lounge ของสายการบิน โดยมีน้องหมีตัวใหญ่ยืนคอยต้อนรับ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-013.jpg)
ด้านในมีเก้าอี้รับรองให้นั่งพักผ่อน พร้อมบริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-012.jpg)
เมนูแนะนำของที่นี่ก็คือข้าวต้มมัดไส้กล้วย ทานรองท้องแก้หิวก่อนถึงมื้ออาหารหลักบนเครื่องได้เป็นอย่างดี
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-011.jpg)
เสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องดังขึ้นเวลา 11.00 น. ตามเวลา boarding time เพื่อไปขึ้น Shuttle bus ต่อไปขึ้นเครื่องที่ประตูทางออก A7
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-014.jpg)
เครื่องที่จะพาพวกเราไปยังสนามบินตราดเป็นเครื่องบินใบพัด รุ่น AT7 ลำเล็กกะทัดรัด แต่ภายในกว้างสบาย มีด้านละ 2 ที่นั่ง
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-016.jpg)
อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องเป็นข้าวเหนียวกับไก่ทอดสมุนไพร ขนมหวาน ผลไม้ และชาร้อนหรือกาแฟ แต่ไก่ทอดแข็งไปหน่อย ถ้าได้กินตอนทำเสร็จใหม่ๆ น่าจะอร่อยกว่านี้
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-015.jpg)
ใช้เวลาบินอยู่บนท้องฟ้าประมาณ 30-45 นาที และลงจอดที่สนามบินตราดได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องเหนื่อยขับรถเองหรือนั่งรถนานๆ และช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปได้เกือบ 4 ชั่วโมง (ปกติถ้าขับรถยนต์มาเองจากกรุงเทพจะใช้เวลาประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง)
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-017.jpg)
หลังจากลงเครื่องก็มาต่อด้วยรถรางสีสันสดใส ขับมาส่งที่ด้านหน้าของอาคารผู้โดยสาร และรอรับกระเป๋าสัมภาระ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-018.jpg)
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-019.jpg)
พอได้รับกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เดินออกมาจากตัวอาคารผู้โดยสาร ก็จะพบกับจุดบริการรถโดยสารไปยังเกาะช้าง
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-022.jpg)
เป็นรถของบริษัทกรุงเทพลิมูซีน ซึ่งให้บริการรถตู้รับส่งจากสนามบินตราดไปส่งยังจุดสำคัญต่างๆหรือตามโรงแรมที่อยู่บนเกาะช้าง ราคาเที่ยวเดียว 500 บาท/คน ส่วนราคาไปกลับ 900 บาท/คน ทั้งสองราคารวมค่าเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะเรียบร้อยแล้ว
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-020.jpg)
สามารถซื้อตั๋วทั้งไปและกลับได้ทันทีที่หน้าเคาท์เตอร์บริการ ผ่านเว็บไซด์ หรือโทรสำรองที่นั่งล่วงหน้าก็ได้เช่นกัน สำหรับพวกเราเลือกโทรจองเอาไว้ล่วงหน้า พอมาถึงก็แค่เดินมาแจ้งชื่อกับพนักงานตรงบอร์ดรายชื่อ พนักงานก็จะช่วยถือกระเป๋าและพาเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าสนามบิน
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-021.jpg)
รถตู้ที่ให้บริการเป็นแบบ 9 ที่นั่ง เบาะนุ่มนั่งสบายมาก แถมมีกล่องปฐมพยาบาลและน้ำดื่มฟรีบริการบนรถด้วยนะ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-023.jpg)
จากสนามบินตราดมายังท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที คนขับรถขับมาจอดต่อแถวรอคิวขึ้นเรือเฟอร์รี่ โดยที่พวกเราไม่ต้องลงไปซื้อตั๋วด้วยตัวเอง เพราะคนขับจัดการให้ทั้งหมด นั่งตากแอร์รอบนรถชิลๆ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-024.jpg)
เนื่องจากวันที่พวกเราไปเป็นวันเสาร์ นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ คิวรถยนต์รอขึ้นเรือจึงยาวมาก ใช้เวลารออยู่บนรถเกือบ 1 ชั่วโมง จึงต้องแก้เบื่อด้วยการเล่นเฟสบุ๊ค แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเปลืองเน็ตนะ เพราะบนรถตู้มีบริการฟรีไวไฟ ล้ำมากๆ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-025.jpg)
พอถึงคิว รถตู้ก็ขับไปจอดที่ด้านล่างของเรือเฟอร์รี่ และให้ผู้โดยสารขึ้นไปนั่งที่ด้านบน ซึ่งมีร้านค้า ร้านกาแฟ และห้องน้ำให้บริการ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-026.jpg)
เรือออกเดินทางมุ่งหน้าตรงไปยังเกาะช้างที่มองเห็นอยู่ไม่ไกล ใช้เวลาประมาณ 40 นาที นั่งชมวิวตากลมไปเพลินๆ โดยก่อนจะถึงฝั่ง คนขับให้กลับลงมาขึ้นรถ เพื่อเตรียมออกเดินทางต่อทันทีเมื่อเรือเทียบท่า
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-027.jpg)
เดอะ เดวา เกาะช้าง
รถตู้ขับมาส่งพวกเราจนถึงหน้าโรงแรม เดอะ เดวา เกาะช้าง (The Dewa Koh Chang) ที่พักของพวกเราตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-103.jpg)
พนักงานเสิร์ฟ Welcome drink ด้วยน้ำใบเตยและผ้าขนหนูเย็นๆเป็นการต้อนรับ จากนั้นก็พาเดินไปส่งยังห้องพัก
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-028.jpg)
ห้องที่พวกเราพักเป็นแบบ Deluxe มีพื้นที่กว้าง 48 ตารางเมตร ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ และใช้แสงไฟโทนอุ่น
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-050.jpg)
มีเตียงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางของห้อง โดยมีน้องช้างที่ทำจากผ้าขนหนูยืนต้อนรับอยู่บนเตียง
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-052.jpg)
ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น ฟรีไวไฟ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-051.jpg)
และมินิบาร์ (ต้องเสียเงินเพิ่มต่างหาก ฟรีเฉพาะน้ำเปล่า 2 ขวด)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-093.jpg)
ข้างๆเตียงนอนมีเตียงขนาดเล็กให้นอนเล่น พร้อมโต๊ะวางของ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-091.jpg)
จากเตียงนอนสามารถมองทะลุผ่านมู่ลี่ไปยังอ่างอาบน้ำได้
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-086.jpg)
ห้องน้ำแบ่งออกเป็น 4 โซน โซนแรกคือ อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ให้ลงไปนอนแช่ตัวด้วยน้ำอุ่นๆ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-088.jpg)
พร้อมสบู่อาบน้ำและเกลือขัดตัว
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-096.jpg)
โซนถัดมาคืออ่างล้างหน้าที่มีกระจกบานใหญ่อยู่ด้านหลัง
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-087.jpg)
โซนห้องส้วมและห้องอาบน้ำถูกกั้นด้วยผนังและผ้าม่าน แบ่งโซนแห้งและเปียกได้เป็นอย่างดี
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-089.jpg)
ห้องอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Rain Shower พร้อมยาสระผมและครีมอาบน้ำ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-090.jpg)
ด้านนอกมีระเบียงยื่นออกไปฝั่งสระว่ายน้ำ และมีพื้นที่ให้นั่งเล่น
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-092.jpg)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-070.jpg)
ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง บวกกับอากาศร้อนของช่วงบ่าย พวกเราจึงลงไปนอนแช่น้ำและนวดตัวในบ่อจากุซซี่ด้านข้างสระว่ายน้ำ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-001.jpg)
หลังจากแช่น้ำจนตัวเปื่อยก็กลับขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปรอดูพระอาทิตย์ตกดินและรับประทานอาหารเย็นริมชายหาดหน้าโรงแรม
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-032.jpg)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-031.jpg)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-030.jpg)
วิวพระอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้าลงไปในทะเล เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีส้มอมชมพู ให้ความรู้สึกอบอุ่น
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-029.jpg)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-033.jpg)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-034.jpg)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-044.jpg)
บุฟเฟ่ต์ Charcoal Grill ถูกจัดเตรียมไว้บนชายหาด ด้านหน้าของโรงแรม The Dewa Kho Chang เพื่อให้บริการแขกของโรงแรมและนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาในราคา 759 บาทต่อคน เปิดทุกวันตั้งแต่หกโมงครึ่งถึงสี่ทุ่ม
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-036.jpg)
มีของสดสำหรับปิ้งย่างให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์ กุ้ง ปลาหมึก
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-037.jpg)
เนื้อวัว แกะ หมู ไก่ และปลา
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-038.jpg)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-045.jpg)
พร้อมบริการปิ้งย่างโดยพ่อครัวของโรงแรม
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-039.jpg)
นอกจากนั้นก็มีสลัดผัก และน้ำสลัดให้เลือกหลากหลายรสชาติ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-042.jpg)
ผักสดๆ สำหรับผัดกับน้ำมันหอยในกระทะร้อนๆ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-040.jpg)
และขนมปังทานคู่กับซุปร้อนๆ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-041.jpg)
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-043.jpg)
ดินเนอร์มื้อนี้พวกเราได้รับเมนูพิเศษเป็น Signature Dish จากทางโรงแรม จานแรกคือ “Filleto Alla Gnocchi” เนื้อสันในออสเตรเลียย่าง สุกกำลังพอเหมาะ ราดด้วย balsamic red wine sauce นุ่มลิ้นมาก เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งนอคชี่ที่หุ้มด้วยชีสเนื้อเน้นๆ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-046.jpg)
และอีกหนึ่งจานคือ “Seared Tuna Sashimi” เดอะเดวาคลีนทูน่าสไตล์กับสลัดอะโวคาโด เนื้อทูน่าดิบกึ่งสุกที่เข้ากันได้ดีมากกับน้ำสลัดอะโวคาโด
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-047.jpg)
ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติก อาหารรสชาติดี และมีคนรู้ใจนั่งอยู่ตรงหน้า ทำให้อาหารมื้อนี้เป็นมื้อที่สุดแสนพิเศษ
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-048.jpg)
พร้อมขับกล่อมด้วยเสียงดนตรี ผสานกับเสียงคลื่นจากท้องทะเล
![เดอะ เดวา เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-049.jpg)
DAY 2
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่ห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งอยู่ด้านข้างของสระว่ายน้ำ
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-056.jpg)
มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่งในแบบบุฟเฟต์
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-053.jpg)
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-057.jpg)
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-058.jpg)
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-060.jpg)
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-059.jpg)
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-054.jpg)
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-095.jpg)
ขนมปังและแยมรสชาติต่างๆ
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-094.jpg)
และผลไม้หลากหลายชนิด
![The Dewa Koh Chang](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-055.jpg)
กินเสร็จก็ออกมาเดินย่อยสำรวจรอบๆโรงแรม
![ที่พัก เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-061.jpg)
มีสระว่ายน้ำอยู่บริเวณตรงกลางของโรงแรม ด้านซ้ายมือเป็นห้องพักแบบ Deluxe มีทั้งหมด 3 ชั้น ส่วนด้านขวามือเป็นห้องอาหารเช้า
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-063.jpg)
ก่อนถึงสระว่ายน้ำคือทางเดินรูปวงกลมล้อมรอบแปลงต้นหญ้า เป็นทางเดินที่เชื่อมระหว่าง Lobby และสระว่ายน้ำ
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-062.jpg)
สระว่ายน้ำกว้างและยาวมาก พื้นสระตกแต่งด้วยกระเบื้องสีดำเงา น้ำในสระเป็นสีเขียวมรกต
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-064.jpg)
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-065.jpg)
บริเวณริมสระมีเก้าอี้พร้อมเบาะนุ่มๆให้ได้นอนอาบแดด
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-066.jpg)
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-067.jpg)
สระผู้ใหญ่ลึก 140 เซนติเมตร ส่วนสระเด็กลึกประมาณ 80 เซนติเมตร และมีห่วงยางกับปืนฉีดน้ำให้ยืมเล่นได้
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-068.jpg)
ปลายสุดของสระคือ THE POOL บาร์ริมน้ำที่สามารถสั่งเครื่องดื่มเย็นๆมาจิบตอนแช่น้ำได้
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-069.jpg)
ช่วงบ่ายพวกเราลงมานั่งเล่นกันที่ THE CAFE คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรม ด้านข้าง Lobby
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-072.jpg)
มีของหวานหน้าตาน่าทานให้เลือกเยอะมาก แถมราคาไม่แพง ตกชิ้นละประมาณ 45 – 90 บาท
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-071.jpg)
ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งร้อนและเย็น
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-073.jpg)
ด้านในมีมุมสบายๆให้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ และมีหนังสือวางอยู่ตามชั้นให้ยืมอ่านได้
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-074.jpg)
นั่งเล่นกันอยู่สักพักก็เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการออกมาขับรถมอเตอร์ไซด์เที่ยว โดยสามารถเช่าได้ที่โรงแรมในราคาวันละ 300 บาท (ไม่รวมค่าน้ำมัน) สะดวกในการเช่าและคืน แต่ถ้าอยากได้ราคาที่ถูกกว่านี้แนะนำให้เดินมาเช่าที่ร้านค้าใกล้ๆกับโรงแรม ในราคา 200 บาทต่อวัน (ไม่รวมค่าน้ำมัน)
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-075.jpg)
ท่าเรือบางเบ้า
จุดหมายที่ตั้งใจจะไปก็คือท่าเรือบางเบ้า ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างทางมีบางช่วงเป็นทางโค้งและชัน ถ้าขับรถไม่แข็งไม่แนะนำให้ขับมาเอง สามารถนั่งรถสองแถวมาแทนได้
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-006.jpg)
พวกเราจอดรถไว้หน้าเซเว่น มีคุณป้าเดินมาหาแล้วชี้ไปที่ป้ายกระดาษที่แขวนไว้แถวนั้น ซึ่งเขียนว่าเก็บค่าจอด 20 บาท ถ้าแค่มาเซเว่นไม่ต้องจ่าย แต่ถ้าเข้าไปที่ท่าเรือต้องจ่ายเพราะจอดนาน หรือไม่ก็ต้องหาที่จอดใหม่ถ้าไม่อยากเสียเงิน จากนั้นก็เดินทะลุหมู่บ้านชาวประมงบางเบ้าที่เปิดเป็นร้านขายของฝากและร้านอาหารมาจนถึงท่าเรือ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-076.jpg)
ปลายสุดของท่าเรือคือประภาคารที่อยากมาถ่ายรูปเล่น แต่แดดร้อนมาก ร้อนจนแทบจะละลายระเหยกลายเป็นไอ จึงตัดสินใจไม่เดินไปต่อ หยุดอยู่แค่ศาลาหลบแดดหลังแรกแล้วอาศัยกล้องซูมถ่ายรูปแทน
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-077.jpg)
นั่งอยู่ได้พักเดียวก็เดินกลับ ระหว่างทางมีน้องแมวเดินเล่นไปมา พวกเราจึงแวะเข้าไปทักทาย
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-003.jpg)
บางตัวก็นอนเล่นอย่างสบายใจ พอเดินเข้าไปใกล้ๆก็ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยอย่างสะลึมสะลือ ประหนึ่งว่ากวนแมวกำลังนอน
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-007.jpg)
ระหว่างทางมีร้านขายของฝากให้เลือกซื้อ แต่ที่เห็นขายกันหลายร้านก็คือ กะปิเกาะช้าง ทำจากเคยแท้ 100% เลยอุดหนุนมา 2 กระปุกราคา 100 บาท กลิ่นหอมแต่รสชาติยังไม่ค่อยเข้มข้น
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-002.jpg)
เดินออกมาจากท่าเรือด้วยความหิวและกระหายความเย็น จึงแวะเข้าไปหาอะไรรองท้องและตากแอร์ในเซเว่น
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-008.jpg)
Rasta View
จากนั้นก็ขับรถออกมาจากท่าเรือ แล้วเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 600 เมตร ก็จะพบกับร้าน Rasta View คาเฟ่สไตล์เร็กเก้ที่ตั้งอยู่ริมเชิงเขา สามารถมองเห็นวิวทะเลจากมุมสูงพร้อมที่นั่งชมวิว มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-079.jpg)
จุดเด่นของที่นี่คือวิวที่สวยงาม แต่ข้อเสียคืออากาศร้อนในตอนบ่ายและกลิ่นบุหรี่ที่สูบกันภายในร้าน จากนั้นพวกเราก็ขับรถกลับมาที่โรงแรม เพราะมีนัดกับเจ้าหน้าที่ของ ATV Monster Adventure ที่จะมารับพวกเราไปขับ ATV รอบ 5 โมงเย็น
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-078.jpg)
ATV Monster Adventure
จุดเริ่มต้นเป็นออฟฟิสที่ตั้งอยู่ริมชายเขา มีรถ ATV หลายรุ่นหลายขนาดให้เลือกให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่ พร้อมหมวกกันน๊อค โดยก่อนจะออกไปผจญภัยในป่าจะต้องซ้อมขับที่สนามรอบๆออฟฟิส เพื่อให้คุ้นเคยกับการบังคับรถและจังหวะการเลี้ยว หากสามารถขับมอเตอร์ไซด์ได้ การขับ ATV ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อคนขับและคนซ้อนพร้อมก็เริ่มออกเดินทาง Let’s go!!!
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-004.jpg)
ขับลัดเลาะไปตามเส้นทางดินที่มีขนาดความกว้างพอดีกับตัวรถ ช่วงแรกจะเป็นสวนยางพาราที่ถูกปล่อยทิ้งไว้จนต้นสูงใหญ่ ผสมกับต้นไม้ใหญ่อีกหลายชนิด พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยต้นหญ้า เหลือไว้เพียงแค่แนวรอยล้อของรถ ATV
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-121.jpg)
ขับวกไปวนมาตามเส้นทางที่คดเคี้ยว ขึ้นเนิน ลงเนิน ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ สนุกและตื่นเต้นมาก แถมอากาศก็เย็นสบาย
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-120.jpg)
จากนั้นก็ขับลัดเลาะมาตามชายเขาจนทะลุออกมายังทุ่งหญ้าโล่งกว้างกลางป่า ที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าคา ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสะวันนาในแอฟริกา
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-122.jpg)
บางช่วงมีต้นอ้อกำลังออกดอกชูช่อพริ้วไหวไปตามสายลม บรรยากาศดีมากๆ พวกเราจึงหยุดพักดื่มน้ำและถ่ายรูปเล่น
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-080.jpg)
ช่วงสุดท้ายคือไฮไลด์ของที่นี่ ซึ่งก็คือการขับรถ ATV มาจอดแวะพักริมเชิงเขา เพื่อรอดูวิวพระอาทิตย์ตกดิน
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-005.jpg)
ในวันที่ฟ้าเปิดจะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ดวงกลมๆค่อยๆลับขอบฟ้าลงไปในท้องทะเล แต่วันนี้มีเมฆและหมอกจากฝนมาบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้เห็นเพียงแค่แสงสีส้มอมชมพูที่พระอาทิตย์ได้ทิ้งเอาไว้ให้เชยชม
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-081.jpg)
จากนั้นก็ขับกลับลงมาที่ออฟฟิสซึ่งอยู่ไม่ไกล สำหรับเส้นทางนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีวันละ 4 รอบ (9.00 / 12.00 / 13.00 / 17.00 น.) รอบสุดท้ายจะได้รอชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-083.jpg)
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-082.jpg)
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราขับ ATV แต่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าได้ขับแบบผจญภัยอย่างจริงจังในเส้นทางที่ทั้งสนุก ตื่นเต้น และสวยงาม แต่สำหรับผู้หญิงที่ต้องนั่งซ้อนอาจจะไม่ค่อยสนุกสักเท่าไหร่ เพราะนั่งได้ไม่ค่อยถนัด เด้งไปเด้งมาตลอดทาง ตากลมจึงแนะนำเพิ่มเติมว่าควรจะใส่สปอร์ตบรามาด้วย เพื่อความสบายตัวของสาวๆ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-084.jpg)
เจ้าหน้าที่พากลับมาส่งที่โรงแรม ตอนแรกพวกเรามีแพลนว่าจะไปเดินเล่นและหาข้าวกินแถว lonely beach หลังจากอาบน้ำเสร็จ แต่ยังรู้สึกเหนื่อยจากการออกแรงขับ ATV เลยเปลี่ยนใจสั่งอาหารของโรงแรมมานั่งกินในห้องและนอนตากแอร์ดูทีวีแทน ปล.ผัดกระเพราทะเลไข่ดาวอร่อยมาก
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-085.jpg)
DAY 3
ตื่นสายๆแล้วออกมากินอาหารเช้าตอนเกือบ 10 โมง พอกินเสร็จฝนก็ตกจึงกลับไปนอนเล่นที่ห้อง รอจนฝนหยุดแล้วออกมาเดินเล่นชมวิวริมทะเล
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-098.jpg)
ริมชายหาดหน้าโรงแรมมีชิงช้าเล็กๆให้นั่งเล่น หรือจะจูงมือกันไปเดินเล่นให้เท้าสัมผัสน้ำทะเลก็ชิลไปอีกแบบ
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-097.jpg)
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-104.jpg)
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-105.jpg)
ก่อนกลับพวกเรามาใช้บริการ THE SPA ที่บริเวณชั้นสองของ Lobby มีบริการให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนวดหน้า นวดตัว หรือนวดฝ่าเท้า แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-101.jpg)
สำหรับตากลมเลือกเป็น Aroma Classic Massage นวดตัวด้วยน้ำมัน Aroma เพื่อผ่อนคลายและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ราคา 799 บาท (ราคาโปรโมชั่น)
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-099.jpg)
ส่วนเราเลือกแบบ Traditional Thai Massage เป็นการนวดแผนไทย ที่เน้นการนวดคลายเส้นตั้งแต่หัวจดเท้า เหมาะกับหนุ่มออฟฟิสที่นั่งหน้าคอมจนเส้นตรึงอย่างเราเป็นอย่างมาก ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ราคาเพียง 600 บาทเท่านั้น
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-100.jpg)
หลังจากนวดเสร็จ พนักงานจะเสิร์ฟน้ำขิงอุ่นๆให้ทาน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นมากขึ้น
![ที่พักเกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-102.jpg)
รถตู้เจ้าเดิมที่จองเอาไว้มารับพวกเราที่โรงแรมตอนบ่าย 3 โมงตรง เพื่อไปส่งที่สนามบินตราด โดยขากลับใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง มาถึงสนามบินประมาณ 5 โมงเย็น
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-106.jpg)
ขากลับพวกเราเลือกเที่ยวบินที่ PG 308 ออกเดินทางเวลา 18.30 น. เที่ยวสุดท้ายของวัน ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่เวลาดีมาก เพราะไม่ต้องรีบมาสนามบิน ทำให้มีเวลาพักผ่อนอยู่บนเกาะช้างเพิ่มมากขึ้น
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-108.jpg)
พอเช็คอินเสร็จก็เดินไปตรวจกระเป๋า แล้วเข้าไปนั่งรอที่ห้องรับรองของสายการบิน Bangkok Airways ซึ่งมีแค่สายการบินเดียว
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-111.jpg)
ด้านในมีบริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม พร้อมบริการฟรีไวไฟ โดยสามารถนำตั๋วเครื่องบินมาสแกนที่เครื่องพิมพ์ ซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะ ด้านซ้ายมือของรูปด้านล่าง เพื่อรับรหัสเข้าใช้งานไวไฟ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-109.jpg)
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-110.jpg)
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-113.jpg)
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-112.jpg)
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-114.jpg)
ไม่นานนักเครื่องที่จะมารับพวกเรากลับกรุงเทพก็เดินทางมาถึงสนามบิน รถรางทยอยรับผู้โดยสารลงจากเครื่องจนหมด และเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางกลับ
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-115.jpg)
เมื่อเครื่องบินพร้อม รถรางก็ขับมารับพวกเราไปขึ้นเครื่องที่มีลวดลายสีสันสดใสลำนี้
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-116.jpg)
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-117.jpg)
สำหรับเมนูอาหารของขากลับเป็นเป็ดย่างราดซอส ทานคู่กับผัดหมี่ซั่ว อร่อยและอิ่มมาก
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-119.jpg)
ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างปลอดภัย เป็นอันจบทริปพาแฟนหนีร้อนไปนอนริมทะเลที่ เดอะ เดวา เกาะช้าง (The Dewa Koh Chang) ด้วยระยะเวลา 3 วัน 2 คืน อย่างสมบูรณ์
![เกาะช้าง](http://www.loveisajourneythailand.com/wp-content/uploads/2020/03/Koh-Chang-2017-118.jpg)
สรุปรายละเอียดการเดินทาง ดังนี้
DAY 1
- ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน Bangkok Airways เที่ยวบินที่ PG 305 เวลา 11.40 น. ถึงสนามบินตราดเวลา 12.40 น. ใช้เวลาบินเพียงแค่ 1 ชั่วโมง
- นั่งรถตู้รับส่งสนามบิน – โรงแรมของบริษัทกรุงเทพลิมูซีน
- ขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะช้างที่ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ
- พักที่โรงแรม เดอะ เดวา เกาะช้าง (The Dewa Koh Chang)
- ดูพระอาทิตย์ตกดิน และดินเนอร์ริมทะเล บนชายหาดด้านหน้าของโรงแรม
DAY 2
- รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
- ชิมเค้ก จิบเครื่องดื่มเย็นๆ นั่งตากแอร์ชิลๆที่ THE CAFE
- ขับมอเตอร์ไซด์ไปหมู่บ้านชาวประมงบางเบ้า
- แวะไปถ่ายรูปกับประภาคารที่ท่าเรือบางเบ้า
- ขับรถ ATV ผจญภัยในป่า และดูพระอาทิตย์ตกดิน
DAY 3
- รับประทานอาหารเช้าและพักผ่อน
- นวดตัวเพื่อผ่อนคลายที่ THE SPA
- เดินทางไปสนามบินตราดด้วยรถตู้ของบริษัทกรุงเทพลิมูซีน
- เดินทางกลับกรุงเทพด้วยสายการบิน Bangkok Airways เที่ยวบินที่ PG 308 เวลา 18.30 น.
ช่วงเวลาเดินทาง : 22 – 24 เมษายน 2560
สรุปรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-ตราด คนละ 5,800 บาท (ราคาโปรโมชั่น)
- Website : www.bangkokair.com
- Call Center : 1771
- ค่ารถตู้รับส่งสนามบิน – โรงแรม (ไป-กลับ) คนละ 900 บาท (รวมค่าตั๋วเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะเรียบร้อยแล้ว)
- Website : www.kohchangaccom.com
- Call Canter : 039-51-6005
- ค่าห้องพักแบบ Deluxe จำนวน 2 คืน 5,040 บาท (ราคาโปรโมชั่น + รวมอาหารเช้า)
- Facebook : The Dewa Koh Chang
- Website : www.thedewakohchang.com
- Tel. 02-2548650 – 5
- ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ 1 วัน 200 บาท (ไม่รวมน้ำมัน)
- ค่าเช่ารถ ATV 1 ชั่วโมง 1,500 บาท (ราคาโปรโมชั่นสำหรับคนไทย)
- Facebook : ATVmosteradventurebynara
- Website : www.monsteradventure1979.com
- Tel : 089-5034004 / 062-4184909
- ค่าอาหารและอื่นๆ : ตามอัธยาศัย