The Dewa Koh Chang

เดอะ เดวา เกาะช้าง ที่พักสไตล์ทรอปิคอล สวรรค์ของคนรักความสงบและท้องทะเล

หากให้ลองลิสต์รายชื่อเกาะในประเทศไทยที่อยากไปมากที่สุดมา 5 เกาะ เชื่อว่า 1 ในนั้นจะต้องมี เกาะช้าง จ.ตราด เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากภูเก็ต แต่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของอ่าวไทย เกาะที่มีท้องทะเล ชายหาด และภูเขาที่สวยงาม มีโรงแรมสุดแสนโรแมนติกอย่าง เดอะ เดวา เกาะช้าง (The Dewa Koh Chang) ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

ทำให้เกาะช้างเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆที่ควรมาสัมผัส เหมาะที่จะพาแฟนหนีอากาศร้อนและความวุ่นวายในเมืองหลวงมานอนพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติก ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เพื่อชาร์ตพลังกายและใจให้เต็มเปี่ยม เพียงพอต่อการกลับไปเผชิญหน้ากับภาระหน้าที่ของชีวิตมนุษย์เงินเดือน

DAY 1

พวกเราเริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน Bangkok Airways เที่ยวบิน PG 305 เวลา 11.40 น.ถึงสนามบินตราดเวลา 12.40 น. ใช้เวลาบินเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น โดยมีให้บริการวันละ 3 เที่ยวบินต่อวัน

เกาะช้าง

หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไปนั่งเล่นรอเวลาเรียกขึ้นเครื่องที่ Boutique Lounge ของสายการบิน โดยมีน้องหมีตัวใหญ่ยืนคอยต้อนรับ

เกาะช้าง

ด้านในมีเก้าอี้รับรองให้นั่งพักผ่อน พร้อมบริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม

เกาะช้าง

เมนูแนะนำของที่นี่ก็คือข้าวต้มมัดไส้กล้วย ทานรองท้องแก้หิวก่อนถึงมื้ออาหารหลักบนเครื่องได้เป็นอย่างดี

เกาะช้าง

เสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องดังขึ้นเวลา 11.00 น. ตามเวลา boarding time เพื่อไปขึ้น Shuttle bus ต่อไปขึ้นเครื่องที่ประตูทางออก A7

เกาะช้าง

เครื่องที่จะพาพวกเราไปยังสนามบินตราดเป็นเครื่องบินใบพัด รุ่น AT7 ลำเล็กกะทัดรัด แต่ภายในกว้างสบาย มีด้านละ 2 ที่นั่ง

เกาะช้าง

อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องเป็นข้าวเหนียวกับไก่ทอดสมุนไพร ขนมหวาน ผลไม้ และชาร้อนหรือกาแฟ แต่ไก่ทอดแข็งไปหน่อย ถ้าได้กินตอนทำเสร็จใหม่ๆ น่าจะอร่อยกว่านี้

เกาะช้าง

ใช้เวลาบินอยู่บนท้องฟ้าประมาณ 30-45 นาที และลงจอดที่สนามบินตราดได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องเหนื่อยขับรถเองหรือนั่งรถนานๆ และช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปได้เกือบ 4 ชั่วโมง (ปกติถ้าขับรถยนต์มาเองจากกรุงเทพจะใช้เวลาประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง)

เกาะช้าง

หลังจากลงเครื่องก็มาต่อด้วยรถรางสีสันสดใส ขับมาส่งที่ด้านหน้าของอาคารผู้โดยสาร และรอรับกระเป๋าสัมภาระ

เกาะช้าง
เกาะช้าง

พอได้รับกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เดินออกมาจากตัวอาคารผู้โดยสาร ก็จะพบกับจุดบริการรถโดยสารไปยังเกาะช้าง

เกาะช้าง

เป็นรถของบริษัทกรุงเทพลิมูซีน ซึ่งให้บริการรถตู้รับส่งจากสนามบินตราดไปส่งยังจุดสำคัญต่างๆหรือตามโรงแรมที่อยู่บนเกาะช้าง ราคาเที่ยวเดียว 500 บาท/คน ส่วนราคาไปกลับ 900 บาท/คน ทั้งสองราคารวมค่าเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะเรียบร้อยแล้ว

เกาะช้าง

สามารถซื้อตั๋วทั้งไปและกลับได้ทันทีที่หน้าเคาท์เตอร์บริการ ผ่านเว็บไซด์ หรือโทรสำรองที่นั่งล่วงหน้าก็ได้เช่นกัน สำหรับพวกเราเลือกโทรจองเอาไว้ล่วงหน้า พอมาถึงก็แค่เดินมาแจ้งชื่อกับพนักงานตรงบอร์ดรายชื่อ พนักงานก็จะช่วยถือกระเป๋าและพาเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าสนามบิน

เกาะช้าง

รถตู้ที่ให้บริการเป็นแบบ 9 ที่นั่ง เบาะนุ่มนั่งสบายมาก แถมมีกล่องปฐมพยาบาลและน้ำดื่มฟรีบริการบนรถด้วยนะ

เกาะช้าง

จากสนามบินตราดมายังท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที คนขับรถขับมาจอดต่อแถวรอคิวขึ้นเรือเฟอร์รี่ โดยที่พวกเราไม่ต้องลงไปซื้อตั๋วด้วยตัวเอง เพราะคนขับจัดการให้ทั้งหมด นั่งตากแอร์รอบนรถชิลๆ

เกาะช้าง

เนื่องจากวันที่พวกเราไปเป็นวันเสาร์ นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ คิวรถยนต์รอขึ้นเรือจึงยาวมาก ใช้เวลารออยู่บนรถเกือบ 1 ชั่วโมง จึงต้องแก้เบื่อด้วยการเล่นเฟสบุ๊ค แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเปลืองเน็ตนะ เพราะบนรถตู้มีบริการฟรีไวไฟ ล้ำมากๆ

เกาะช้าง

พอถึงคิว รถตู้ก็ขับไปจอดที่ด้านล่างของเรือเฟอร์รี่ และให้ผู้โดยสารขึ้นไปนั่งที่ด้านบน ซึ่งมีร้านค้า ร้านกาแฟ และห้องน้ำให้บริการ

เกาะช้าง

เรือออกเดินทางมุ่งหน้าตรงไปยังเกาะช้างที่มองเห็นอยู่ไม่ไกล ใช้เวลาประมาณ 40 นาที นั่งชมวิวตากลมไปเพลินๆ โดยก่อนจะถึงฝั่ง คนขับให้กลับลงมาขึ้นรถ เพื่อเตรียมออกเดินทางต่อทันทีเมื่อเรือเทียบท่า

เกาะช้าง

เดอะ เดวา เกาะช้าง

รถตู้ขับมาส่งพวกเราจนถึงหน้าโรงแรม เดอะ เดวา เกาะช้าง (The Dewa Koh Chang) ที่พักของพวกเราตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน

เดอะ เดวา เกาะช้าง

พนักงานเสิร์ฟ Welcome drink ด้วยน้ำใบเตยและผ้าขนหนูเย็นๆเป็นการต้อนรับ จากนั้นก็พาเดินไปส่งยังห้องพัก

เดอะ เดวา เกาะช้าง

ห้องที่พวกเราพักเป็นแบบ Deluxe มีพื้นที่กว้าง 48 ตารางเมตร ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ และใช้แสงไฟโทนอุ่น

เดอะ เดวา เกาะช้าง

มีเตียงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางของห้อง โดยมีน้องช้างที่ทำจากผ้าขนหนูยืนต้อนรับอยู่บนเตียง

เดอะ เดวา เกาะช้าง

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น ฟรีไวไฟ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

และมินิบาร์ (ต้องเสียเงินเพิ่มต่างหาก ฟรีเฉพาะน้ำเปล่า 2 ขวด)

เดอะ เดวา เกาะช้าง

ข้างๆเตียงนอนมีเตียงขนาดเล็กให้นอนเล่น พร้อมโต๊ะวางของ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

จากเตียงนอนสามารถมองทะลุผ่านมู่ลี่ไปยังอ่างอาบน้ำได้

เดอะ เดวา เกาะช้าง

ห้องน้ำแบ่งออกเป็น 4 โซน โซนแรกคือ อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ให้ลงไปนอนแช่ตัวด้วยน้ำอุ่นๆ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

พร้อมสบู่อาบน้ำและเกลือขัดตัว

เดอะ เดวา เกาะช้าง

โซนถัดมาคืออ่างล้างหน้าที่มีกระจกบานใหญ่อยู่ด้านหลัง

เดอะ เดวา เกาะช้าง

โซนห้องส้วมและห้องอาบน้ำถูกกั้นด้วยผนังและผ้าม่าน แบ่งโซนแห้งและเปียกได้เป็นอย่างดี

เดอะ เดวา เกาะช้าง

ห้องอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Rain Shower พร้อมยาสระผมและครีมอาบน้ำ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

ด้านนอกมีระเบียงยื่นออกไปฝั่งสระว่ายน้ำ และมีพื้นที่ให้นั่งเล่น

เดอะ เดวา เกาะช้าง
เดอะ เดวา เกาะช้าง

ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง บวกกับอากาศร้อนของช่วงบ่าย พวกเราจึงลงไปนอนแช่น้ำและนวดตัวในบ่อจากุซซี่ด้านข้างสระว่ายน้ำ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

หลังจากแช่น้ำจนตัวเปื่อยก็กลับขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปรอดูพระอาทิตย์ตกดินและรับประทานอาหารเย็นริมชายหาดหน้าโรงแรม

เดอะ เดวา เกาะช้าง
เดอะ เดวา เกาะช้าง
เดอะ เดวา เกาะช้าง

วิวพระอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้าลงไปในทะเล เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีส้มอมชมพู ให้ความรู้สึกอบอุ่น

เดอะ เดวา เกาะช้าง
เดอะ เดวา เกาะช้าง
เดอะ เดวา เกาะช้าง
เดอะ เดวา เกาะช้าง

บุฟเฟ่ต์ Charcoal Grill ถูกจัดเตรียมไว้บนชายหาด ด้านหน้าของโรงแรม The Dewa Kho Chang เพื่อให้บริการแขกของโรงแรมและนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาในราคา 759 บาทต่อคน เปิดทุกวันตั้งแต่หกโมงครึ่งถึงสี่ทุ่ม

เดอะ เดวา เกาะช้าง

มีของสดสำหรับปิ้งย่างให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์ กุ้ง ปลาหมึก

เดอะ เดวา เกาะช้าง

เนื้อวัว แกะ หมู ไก่ และปลา

เดอะ เดวา เกาะช้าง
เดอะ เดวา เกาะช้าง

พร้อมบริการปิ้งย่างโดยพ่อครัวของโรงแรม

เดอะ เดวา เกาะช้าง

นอกจากนั้นก็มีสลัดผัก และน้ำสลัดให้เลือกหลากหลายรสชาติ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

ผักสดๆ สำหรับผัดกับน้ำมันหอยในกระทะร้อนๆ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

และขนมปังทานคู่กับซุปร้อนๆ

เดอะ เดวา เกาะช้าง
เดอะ เดวา เกาะช้าง

ดินเนอร์มื้อนี้พวกเราได้รับเมนูพิเศษเป็น Signature Dish จากทางโรงแรม จานแรกคือ “Filleto Alla Gnocchi” เนื้อสันในออสเตรเลียย่าง สุกกำลังพอเหมาะ ราดด้วย balsamic red wine sauce นุ่มลิ้นมาก เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งนอคชี่ที่หุ้มด้วยชีสเนื้อเน้นๆ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

และอีกหนึ่งจานคือ “Seared Tuna Sashimi” เดอะเดวาคลีนทูน่าสไตล์กับสลัดอะโวคาโด เนื้อทูน่าดิบกึ่งสุกที่เข้ากันได้ดีมากกับน้ำสลัดอะโวคาโด

เดอะ เดวา เกาะช้าง

ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติก อาหารรสชาติดี และมีคนรู้ใจนั่งอยู่ตรงหน้า ทำให้อาหารมื้อนี้เป็นมื้อที่สุดแสนพิเศษ

เดอะ เดวา เกาะช้าง

พร้อมขับกล่อมด้วยเสียงดนตรี ผสานกับเสียงคลื่นจากท้องทะเล

เดอะ เดวา เกาะช้าง

DAY 2

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่ห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งอยู่ด้านข้างของสระว่ายน้ำ

The Dewa Koh Chang

มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่งในแบบบุฟเฟต์

The Dewa Koh Chang
The Dewa Koh Chang
The Dewa Koh Chang
The Dewa Koh Chang
The Dewa Koh Chang
The Dewa Koh Chang
The Dewa Koh Chang

ขนมปังและแยมรสชาติต่างๆ

The Dewa Koh Chang

และผลไม้หลากหลายชนิด

The Dewa Koh Chang

กินเสร็จก็ออกมาเดินย่อยสำรวจรอบๆโรงแรม

ที่พัก เกาะช้าง

มีสระว่ายน้ำอยู่บริเวณตรงกลางของโรงแรม ด้านซ้ายมือเป็นห้องพักแบบ Deluxe มีทั้งหมด 3 ชั้น ส่วนด้านขวามือเป็นห้องอาหารเช้า

ที่พักเกาะช้าง

ก่อนถึงสระว่ายน้ำคือทางเดินรูปวงกลมล้อมรอบแปลงต้นหญ้า เป็นทางเดินที่เชื่อมระหว่าง Lobby และสระว่ายน้ำ

ที่พักเกาะช้าง

สระว่ายน้ำกว้างและยาวมาก พื้นสระตกแต่งด้วยกระเบื้องสีดำเงา น้ำในสระเป็นสีเขียวมรกต

ที่พักเกาะช้าง
ที่พักเกาะช้าง

บริเวณริมสระมีเก้าอี้พร้อมเบาะนุ่มๆให้ได้นอนอาบแดด

ที่พักเกาะช้าง
ที่พักเกาะช้าง

สระผู้ใหญ่ลึก 140 เซนติเมตร ส่วนสระเด็กลึกประมาณ 80 เซนติเมตร และมีห่วงยางกับปืนฉีดน้ำให้ยืมเล่นได้

ที่พักเกาะช้าง

ปลายสุดของสระคือ THE POOL บาร์ริมน้ำที่สามารถสั่งเครื่องดื่มเย็นๆมาจิบตอนแช่น้ำได้

ที่พักเกาะช้าง

ช่วงบ่ายพวกเราลงมานั่งเล่นกันที่ THE CAFE คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรม ด้านข้าง Lobby

ที่พักเกาะช้าง

มีของหวานหน้าตาน่าทานให้เลือกเยอะมาก แถมราคาไม่แพง ตกชิ้นละประมาณ 45 – 90 บาท

ที่พักเกาะช้าง

ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งร้อนและเย็น

ที่พักเกาะช้าง

ด้านในมีมุมสบายๆให้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ และมีหนังสือวางอยู่ตามชั้นให้ยืมอ่านได้

ที่พักเกาะช้าง

นั่งเล่นกันอยู่สักพักก็เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการออกมาขับรถมอเตอร์ไซด์เที่ยว โดยสามารถเช่าได้ที่โรงแรมในราคาวันละ 300 บาท (ไม่รวมค่าน้ำมัน) สะดวกในการเช่าและคืน แต่ถ้าอยากได้ราคาที่ถูกกว่านี้แนะนำให้เดินมาเช่าที่ร้านค้าใกล้ๆกับโรงแรม ในราคา 200 บาทต่อวัน (ไม่รวมค่าน้ำมัน)

ที่พักเกาะช้าง

ท่าเรือบางเบ้า

จุดหมายที่ตั้งใจจะไปก็คือท่าเรือบางเบ้า ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างทางมีบางช่วงเป็นทางโค้งและชัน ถ้าขับรถไม่แข็งไม่แนะนำให้ขับมาเอง สามารถนั่งรถสองแถวมาแทนได้

เกาะช้าง

พวกเราจอดรถไว้หน้าเซเว่น มีคุณป้าเดินมาหาแล้วชี้ไปที่ป้ายกระดาษที่แขวนไว้แถวนั้น ซึ่งเขียนว่าเก็บค่าจอด 20 บาท ถ้าแค่มาเซเว่นไม่ต้องจ่าย แต่ถ้าเข้าไปที่ท่าเรือต้องจ่ายเพราะจอดนาน หรือไม่ก็ต้องหาที่จอดใหม่ถ้าไม่อยากเสียเงิน จากนั้นก็เดินทะลุหมู่บ้านชาวประมงบางเบ้าที่เปิดเป็นร้านขายของฝากและร้านอาหารมาจนถึงท่าเรือ

เกาะช้าง

ปลายสุดของท่าเรือคือประภาคารที่อยากมาถ่ายรูปเล่น แต่แดดร้อนมาก ร้อนจนแทบจะละลายระเหยกลายเป็นไอ จึงตัดสินใจไม่เดินไปต่อ หยุดอยู่แค่ศาลาหลบแดดหลังแรกแล้วอาศัยกล้องซูมถ่ายรูปแทน

เกาะช้าง

นั่งอยู่ได้พักเดียวก็เดินกลับ ระหว่างทางมีน้องแมวเดินเล่นไปมา พวกเราจึงแวะเข้าไปทักทาย

เกาะช้าง

บางตัวก็นอนเล่นอย่างสบายใจ พอเดินเข้าไปใกล้ๆก็ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยอย่างสะลึมสะลือ ประหนึ่งว่ากวนแมวกำลังนอน

เกาะช้าง

ระหว่างทางมีร้านขายของฝากให้เลือกซื้อ แต่ที่เห็นขายกันหลายร้านก็คือ กะปิเกาะช้าง ทำจากเคยแท้ 100% เลยอุดหนุนมา 2 กระปุกราคา 100 บาท กลิ่นหอมแต่รสชาติยังไม่ค่อยเข้มข้น

เกาะช้าง

เดินออกมาจากท่าเรือด้วยความหิวและกระหายความเย็น จึงแวะเข้าไปหาอะไรรองท้องและตากแอร์ในเซเว่น

เกาะช้าง

Rasta View

จากนั้นก็ขับรถออกมาจากท่าเรือ แล้วเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 600 เมตร ก็จะพบกับร้าน Rasta View คาเฟ่สไตล์เร็กเก้ที่ตั้งอยู่ริมเชิงเขา สามารถมองเห็นวิวทะเลจากมุมสูงพร้อมที่นั่งชมวิว มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม

เกาะช้าง

จุดเด่นของที่นี่คือวิวที่สวยงาม แต่ข้อเสียคืออากาศร้อนในตอนบ่ายและกลิ่นบุหรี่ที่สูบกันภายในร้าน จากนั้นพวกเราก็ขับรถกลับมาที่โรงแรม เพราะมีนัดกับเจ้าหน้าที่ของ ATV Monster Adventure ที่จะมารับพวกเราไปขับ ATV รอบ 5 โมงเย็น

เกาะช้าง

ATV Monster Adventure

จุดเริ่มต้นเป็นออฟฟิสที่ตั้งอยู่ริมชายเขา มีรถ ATV หลายรุ่นหลายขนาดให้เลือกให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่ พร้อมหมวกกันน๊อค โดยก่อนจะออกไปผจญภัยในป่าจะต้องซ้อมขับที่สนามรอบๆออฟฟิส เพื่อให้คุ้นเคยกับการบังคับรถและจังหวะการเลี้ยว หากสามารถขับมอเตอร์ไซด์ได้ การขับ ATV ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อคนขับและคนซ้อนพร้อมก็เริ่มออกเดินทาง Let’s go!!!

เกาะช้าง

ขับลัดเลาะไปตามเส้นทางดินที่มีขนาดความกว้างพอดีกับตัวรถ ช่วงแรกจะเป็นสวนยางพาราที่ถูกปล่อยทิ้งไว้จนต้นสูงใหญ่ ผสมกับต้นไม้ใหญ่อีกหลายชนิด พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยต้นหญ้า เหลือไว้เพียงแค่แนวรอยล้อของรถ ATV

เกาะช้าง

ขับวกไปวนมาตามเส้นทางที่คดเคี้ยว ขึ้นเนิน ลงเนิน ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ สนุกและตื่นเต้นมาก แถมอากาศก็เย็นสบาย

เกาะช้าง

จากนั้นก็ขับลัดเลาะมาตามชายเขาจนทะลุออกมายังทุ่งหญ้าโล่งกว้างกลางป่า ที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าคา ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสะวันนาในแอฟริกา

เกาะช้าง

บางช่วงมีต้นอ้อกำลังออกดอกชูช่อพริ้วไหวไปตามสายลม บรรยากาศดีมากๆ พวกเราจึงหยุดพักดื่มน้ำและถ่ายรูปเล่น

เกาะช้าง

ช่วงสุดท้ายคือไฮไลด์ของที่นี่ ซึ่งก็คือการขับรถ ATV มาจอดแวะพักริมเชิงเขา เพื่อรอดูวิวพระอาทิตย์ตกดิน

เกาะช้าง

ในวันที่ฟ้าเปิดจะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ดวงกลมๆค่อยๆลับขอบฟ้าลงไปในท้องทะเล แต่วันนี้มีเมฆและหมอกจากฝนมาบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้เห็นเพียงแค่แสงสีส้มอมชมพูที่พระอาทิตย์ได้ทิ้งเอาไว้ให้เชยชม

เกาะช้าง

จากนั้นก็ขับกลับลงมาที่ออฟฟิสซึ่งอยู่ไม่ไกล สำหรับเส้นทางนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีวันละ 4 รอบ (9.00 / 12.00 / 13.00 / 17.00 น.) รอบสุดท้ายจะได้รอชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน

เกาะช้าง
เกาะช้าง

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราขับ ATV แต่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าได้ขับแบบผจญภัยอย่างจริงจังในเส้นทางที่ทั้งสนุก ตื่นเต้น และสวยงาม แต่สำหรับผู้หญิงที่ต้องนั่งซ้อนอาจจะไม่ค่อยสนุกสักเท่าไหร่ เพราะนั่งได้ไม่ค่อยถนัด เด้งไปเด้งมาตลอดทาง ตากลมจึงแนะนำเพิ่มเติมว่าควรจะใส่สปอร์ตบรามาด้วย เพื่อความสบายตัวของสาวๆ

เกาะช้าง

เจ้าหน้าที่พากลับมาส่งที่โรงแรม ตอนแรกพวกเรามีแพลนว่าจะไปเดินเล่นและหาข้าวกินแถว lonely beach หลังจากอาบน้ำเสร็จ แต่ยังรู้สึกเหนื่อยจากการออกแรงขับ ATV เลยเปลี่ยนใจสั่งอาหารของโรงแรมมานั่งกินในห้องและนอนตากแอร์ดูทีวีแทน ปล.ผัดกระเพราทะเลไข่ดาวอร่อยมาก

เกาะช้าง

DAY 3

ตื่นสายๆแล้วออกมากินอาหารเช้าตอนเกือบ 10 โมง พอกินเสร็จฝนก็ตกจึงกลับไปนอนเล่นที่ห้อง รอจนฝนหยุดแล้วออกมาเดินเล่นชมวิวริมทะเล

ที่พักเกาะช้าง

ริมชายหาดหน้าโรงแรมมีชิงช้าเล็กๆให้นั่งเล่น หรือจะจูงมือกันไปเดินเล่นให้เท้าสัมผัสน้ำทะเลก็ชิลไปอีกแบบ

ที่พักเกาะช้าง
ที่พักเกาะช้าง
ที่พักเกาะช้าง

ก่อนกลับพวกเรามาใช้บริการ THE SPA ที่บริเวณชั้นสองของ Lobby มีบริการให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนวดหน้า นวดตัว หรือนวดฝ่าเท้า แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน

ที่พักเกาะช้าง

สำหรับตากลมเลือกเป็น Aroma Classic Massage นวดตัวด้วยน้ำมัน Aroma เพื่อผ่อนคลายและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ราคา 799 บาท (ราคาโปรโมชั่น)

ที่พักเกาะช้าง

ส่วนเราเลือกแบบ Traditional Thai Massage เป็นการนวดแผนไทย ที่เน้นการนวดคลายเส้นตั้งแต่หัวจดเท้า เหมาะกับหนุ่มออฟฟิสที่นั่งหน้าคอมจนเส้นตรึงอย่างเราเป็นอย่างมาก ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ราคาเพียง 600 บาทเท่านั้น

ที่พักเกาะช้าง

หลังจากนวดเสร็จ พนักงานจะเสิร์ฟน้ำขิงอุ่นๆให้ทาน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นมากขึ้น

ที่พักเกาะช้าง

รถตู้เจ้าเดิมที่จองเอาไว้มารับพวกเราที่โรงแรมตอนบ่าย 3 โมงตรง เพื่อไปส่งที่สนามบินตราด โดยขากลับใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง มาถึงสนามบินประมาณ 5 โมงเย็น

เกาะช้าง

ขากลับพวกเราเลือกเที่ยวบินที่ PG 308 ออกเดินทางเวลา 18.30 น. เที่ยวสุดท้ายของวัน ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่เวลาดีมาก เพราะไม่ต้องรีบมาสนามบิน ทำให้มีเวลาพักผ่อนอยู่บนเกาะช้างเพิ่มมากขึ้น

เกาะช้าง

พอเช็คอินเสร็จก็เดินไปตรวจกระเป๋า แล้วเข้าไปนั่งรอที่ห้องรับรองของสายการบิน Bangkok Airways ซึ่งมีแค่สายการบินเดียว

เกาะช้าง

ด้านในมีบริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม พร้อมบริการฟรีไวไฟ โดยสามารถนำตั๋วเครื่องบินมาสแกนที่เครื่องพิมพ์ ซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะ ด้านซ้ายมือของรูปด้านล่าง เพื่อรับรหัสเข้าใช้งานไวไฟ

เกาะช้าง
เกาะช้าง
เกาะช้าง
เกาะช้าง
เกาะช้าง

ไม่นานนักเครื่องที่จะมารับพวกเรากลับกรุงเทพก็เดินทางมาถึงสนามบิน รถรางทยอยรับผู้โดยสารลงจากเครื่องจนหมด และเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางกลับ

เกาะช้าง

เมื่อเครื่องบินพร้อม รถรางก็ขับมารับพวกเราไปขึ้นเครื่องที่มีลวดลายสีสันสดใสลำนี้

เกาะช้าง
เกาะช้าง

สำหรับเมนูอาหารของขากลับเป็นเป็ดย่างราดซอส ทานคู่กับผัดหมี่ซั่ว อร่อยและอิ่มมาก

เกาะช้าง

ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างปลอดภัย เป็นอันจบทริปพาแฟนหนีร้อนไปนอนริมทะเลที่ เดอะ เดวา เกาะช้าง (The Dewa Koh Chang) ด้วยระยะเวลา 3 วัน 2 คืน อย่างสมบูรณ์

เกาะช้าง

สรุปรายละเอียดการเดินทาง ดังนี้

DAY 1

  1. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน Bangkok Airways เที่ยวบินที่ PG 305 เวลา 11.40 น. ถึงสนามบินตราดเวลา 12.40 น. ใช้เวลาบินเพียงแค่ 1 ชั่วโมง
  2. นั่งรถตู้รับส่งสนามบิน – โรงแรมของบริษัทกรุงเทพลิมูซีน
  3. ขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะช้างที่ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ
  4. พักที่โรงแรม เดอะ เดวา เกาะช้าง (The Dewa Koh Chang)
  5. ดูพระอาทิตย์ตกดิน และดินเนอร์ริมทะเล บนชายหาดด้านหน้าของโรงแรม

DAY 2

  1. รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
  2. ชิมเค้ก จิบเครื่องดื่มเย็นๆ นั่งตากแอร์ชิลๆที่ THE CAFE
  3. ขับมอเตอร์ไซด์ไปหมู่บ้านชาวประมงบางเบ้า
  4. แวะไปถ่ายรูปกับประภาคารที่ท่าเรือบางเบ้า
  5. ขับรถ ATV ผจญภัยในป่า และดูพระอาทิตย์ตกดิน

DAY 3

  1. รับประทานอาหารเช้าและพักผ่อน
  2. นวดตัวเพื่อผ่อนคลายที่ THE SPA
  3. เดินทางไปสนามบินตราดด้วยรถตู้ของบริษัทกรุงเทพลิมูซีน​
  4. เดินทางกลับกรุงเทพด้วยสายการบิน Bangkok Airways เที่ยวบินที่ PG 308 เวลา 18.30 น.

ช่วงเวลาเดินทาง : 22 – 24 เมษายน 2560


สรุปรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-ตราด คนละ 5,800 บาท (ราคาโปรโมชั่น)
  2. ค่ารถตู้รับส่งสนามบิน – โรงแรม (ไป-กลับ) คนละ 900 บาท (รวมค่าตั๋วเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะเรียบร้อยแล้ว)
  3. ค่าห้องพักแบบ Deluxe จำนวน 2 คืน 5,040 บาท (ราคาโปรโมชั่น + รวมอาหารเช้า)
  4. ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ 1 วัน 200 บาท (ไม่รวมน้ำมัน)
  5. ค่าเช่ารถ ATV 1 ชั่วโมง 1,500 บาท (ราคาโปรโมชั่นสำหรับคนไทย)
  6. ค่าอาหารและอื่นๆ : ตามอัธยาศัย

รวมค่าใช้จ่าย 3 วัน 2 คืน ทั้งหมด 20,140 บาท ตกคนละ 10,070 บาท


คิ้วหนา & ตากลม
Love is a journey | เพราะความรัก คือ การเดินทาง…

RELATED POSTS